เปิดคำสารภาพ หนุ่มพม่าขายโรตี ลวงเด็กชาย 9 ขวบ หวังย่ำยี ก่อนสังหารโหด!
เวลา 13.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2568 พ.ต.ต.จิรวัฒน์อ่องสา พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.สมุทรปราการ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบร่างเด็กชายเอ วัย 9 ขวบ ที่เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ ในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
ซึ่งจุดเกิดเหตุ เป็น ลักษณ์ที่ป่ารกร้างว่างเปล่ามีป่าหญ้าปกคลุม ซึ่งต้องเดินจากถนนเข้าไปในป่าหญ้าประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึง พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นเด็กชาย 1 ราย อายุ 9 ขวบ นอนคว่ำหน้าอยู่ในบ่อน้ำ สภาพสวมเสื้อเพียงตัวเดียว ไม่สวมกางเกง เจ้าหน้าที่จึงกั้นจุดเกิดเหตุเพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นเบื้องต้นจากการสอบสวน ทราบว่า เมื่อวาน ( 22 มกราคม 2568 ) ช่วงค่ำ ทางผู้ปกครองของเด็กชาย วัย 9 ขวบ ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ว่าเด็กชาย วัย 9 ขวบ ได้หายไปไม่ได้เข้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
จึงลงพื้นที่หาข่าวพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านของเด็กชาย วัย 9 ขวบ จึงพบตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับเด็กชาย วัย 9 ขวบ คนสุดท้าย เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่ห้องพักของผู้ต้องสงสัย ที่เป็นหนุ่มชาวเมียนมา อายุ 25 ปี มีอาชีพขายโรตี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์
แต่ในเบื้องต้นทางหนุ่มพม่าคนดังกล่าวนั้นบอกว่ามาส่งเด็กชาย วัย 9 ขวบ ที่หน้าปากซอยเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้สอบสวนต่อจนทางหนุ่มเมียนมาคนดังกล่าวยอมรับว่าพาเด็กชาย วัย 9 ขวบ ไปจริง ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ว่าตนได้พาเด็กชายซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์และไปซื้อของที่เซเว่นก่อนจะพามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะทำการจับน้องถอดกางเกงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่เด็กมีการขัดขืนจึง ได้ทำการบีบคอเด็กจนเด็กแน่นิ่งไป จึงทำการโยนเด็กลงน้ำที่บ่อด้านหลัง หลังจากก่อเหตุก็มีการกลับไปใช้ชีวิตปกติ
ด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ที่เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ เผยว่า เมื่อวานพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทร ได้รับแจ้งมีเด็กชาย อายุประมาณ 8 ปี หายออกจากบ้านไป หลังจากได้รับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ประสานฝ่ายสืบสวน ออกทำการสืบสวนในพื้นที่ เบื้องต้นได้ทราบว่าช่วงประมาณหัวค่ำของเมื่อวาน พบเด็กชายวัย 9 ขวบ ได้มีการซ้อนรถจักรยานยนต์ ของผู้ก่อเหตุ ชายสัญชาติพม่า มีอาชีพขายโรตี และได้เช่าห้องพักอยู่ใกล้ๆกับที่พักของน้อง ซึ่งเด็กและตัวผู้ก่อเหตุรู้จักกัน และได้มีการซ้อนท้าย ผู้ก่อเหตุในช่วงเวลา 17.00 น หลังจากนั้นประมาณ 18.00 น ผู้ก่อเหตุก็ได้กลับห้องไปใช้ชีวิตปกติ
ด้านคุณยายและคุณแม่ของน้องไม่เห็นน้องกลับมาด้วย จึงได้มีการเข้ามาแจ้งความ ครั้งแรกผู้ก่อเหตุมีการโกหกว่า ได้ออกมากับเด็กจริงแต่มาส่งเด็กแค่หน้าปากซอย และเด็กยังมีการขอตังค์ 10 บาทตนก็ให้ไป หลังจากนั้นเขาบอกว่าไม่เห็นเด็กอีกเลยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ และทางญาติของน้องไต๋ก็ไม่เชื่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ซึ่งได้พบว่า เด็กได้ซ้อนท้าย ผู้ก่อเหตุมาจนถึงหน้าปากซอยหมู่บ้านร้างซึ่งเป็นที่สิ้นสุดของกล้อง จึงทำการไล่หาและประกอบกับนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถาม
ถามไปถามมาจนผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ ว่าตนได้พาเด็ก ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์และไปซื้อของที่เซเว่นก่อนจะพามายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะทำการจับน้องถอดกางเกงและพยายามล่วงละเมิดทางเพศแต่เด็กมีการขัดขืนจึงได้ทำการบีบคอเด็กจนเด็กแน่นิ่งไป จึงทำการโยนเด็กลงน้ำที่บ่อด้านหลัง หลังจากก่อเหตุก็มีการกลับไปใช้ชีวิตปกติ เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนและทางด้านผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับสารภาพแล้ว ส่วนเรื่องล่วงละเมิดทางเพศต้องรอตรวจพิสูจน์อีกที
เบื้องต้นผิดทั้ง พรากผู้เยาว์ทั้งพาเด็กไปจากผู้ปกครอง และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และน่าจะโดนปิดบังซ่อนเร้นศพด้วย ก่อนที่จะพาเด็กซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปตัวผู้ก่อเหตุได้มีการดื่มสุรากับเพื่อน คาดว่าน่าจะเกิดจากความเมาด้วยส่วนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการสอบสวนอีก อาจจะโดยเมาด้วยและสันดานด้วย และผู้ก่อเหตุยังเคยถูกจัดดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดไปเมื่อ 2 ปีก่อน และพึ่งลักลอบเข้ามาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา
หลังจากนั้นได้นำตัวหนุ่มผู้ก่อเหตุไปค้นห้องพักภายในซอยจ่าเหวก เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมโดยยึดเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจังหวะที่พาผู้ต้องหาไปค้นห้องได้ถูกกลุ่มญาติของเด็กและคนที่ทราบข่าวที่เดินทางมามุงดู ต่างกู่เข้าไปทำร้ายรุมประชาทัณฑ์.จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันออกมาก่อนที่จะรีบนำขึ้นรถกลับไปยัง สภ.พระสมุทรเจดีย์
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม แม่เด็กผู้เสียชีวิต ที่กำลังตั้งครรภ์แก่ ทราบว่า ช่วงเมื่อวานประมาณ 4 โมงครึ่งถึง 5 โมงของวันที่ 22 มกราคม 2568 เด็กกลับมาจากโรงเรียน แล้วมาเปลี่ยนเสื้อผ้าน้องก็เล่นอยู่บริเวณบ้าน แล้วก็มีผู้ใหญ่อยู่ตรงนี้ตลอดแต่ตนไม่ได้ออกมาเพราะมีลูกเล็ก ตนออกมาอีกทีก็ตอนประมาณช่วง 18.00 น. เพราะว่าน้องไม่เคยออกไปไหนไกลและไม่เคยกลับบ้านเกิน 6 โมงเย็น และมีพยานเห็นว่าเด็กไปกับผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุเขาอ้างว่า เขาจะไปเซเว่นแล้วเด็กขอตามไปด้วย และมีการอ้างว่ารับน้องไปด้วยและจอดให้น้องลงและให้เงินน้อง 10 บาท
แล้วหลังจากนั้นน้องก็หายไป มันจะมีบังอีกคนนึงออกมาแต่ตนไม่แน่ใจว่าน้องไปกับคนไหนเขาจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ พอหลังจากตนไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถามตนว่าแถวนั้นมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ ตนก็เลยบอกว่าในซอยบ้านไม่มีเพราะว่ากล้องมันเสีย หลังจากนั้นพอตนกลับมาตนจึงไปขอกล้องวงจรปิดที่เซเว่นดูเพราะว่าเขาอ้างว่าเขาจะพาลูกตนไปเซเว่น แต่พอตนไปดูที่กล้องวงจรปิดที่เซเว่นวัดใหญ่ เขาบอกว่าไม่มีน้อง ตั้งแต่เวลา 4 โมงครึ่งเป็นต้นไป พอกลับมา มันมีบังอีก 1 คนที่ตนสงสัย และมีเพื่อนเขาโทรไปถามว่าบังคนนี้อยู่ที่ไหนเขาตอบว่าอยู่กับแฟน แต่พอเขากลับมาถึงที่นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามเขาบอกว่าเขาไปหาเพื่อนที่ปากน้ำ พอถามว่าทำไมโทรไปตั้งหลายสายไม่ยอมรับ เขาอ้างว่าโทรศัพท์แบตหมด ทั้งๆที่โทรไปแล้วแต่โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย
เขาจึงเอาตัวบังทั้งสองคนไปโรงพัก เพราะว่าอาจจะมีคนใดคนหนึ่งที่โกหกตนได้ไปโรงพักอีก 2 รอบแล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปตามกล้องที่อบต.ตนแจ้งว่าไปมาแล้ว แต่ที่นั่นไม่ทำการให้เพราะว่ามันดึกแล้ว เขาจึงแนะนำให้มาอีกทีพรุ่งนี้เช้า 8:30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะให้ตนไปแต่ตนบอก ว่าตนท้องแก่มากแล้วไปไม่ไหว เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะไปจัดการหากล้องเอง หลังจากนั้นตำรวจได้ลงมา 2 ชุดชุดแรกไปดูกล้องที่อบต.ชุดที่ 2 ลงมาที่บ้านมาหาเบาะแสพอประมาณช่วงสายของวันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งตนมาว่าเห็นเด็กไปกับผู้ก่อเหตุ นั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปและนั่งหน้าไปกับผู้ก่อเหตุ ไปที่หมู่บ้านร้างและผู้ก่อเหตุก็ทำทีพาแม่ของตนไปหาน้องด้วย เหมือนกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง แล้วพอช่วงสายเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพแล้ว อ้างว่าตัวเองเมาแล้วเกิดอารมณ์ เลย จะข่มขืนน้องแต่น้องไม่ยอม เขาก็เลยบีบคอน้อง ตนไม่ได้ไปดูศพ แต่คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าน้องน่าจะถูกกระทำชำเราไปแล้ว ตนมีลูกทั้งหมด 3 คนคนที่อยู่ในท้องเป็นคนเล็กสุดส่วนคนที่เสียชีวิตเป็นคนโต
ผู้สื่อข่าวสอบถาม เพื่อนบ้าน เล่าให้ฟังว่าช่วงเกิดเหตุไม่เห็นมีแต่ลูกสาวมาบอกว่าเด็กชายเอ ขึ้นรถไปกับพี่บังแล้วเห็นบอกว่าจะไปร้านสะดวกซื้อกันแต่ไม่เห็นเด็กชายเอกลับมาอีกเลย โดยปกติบังคนดังกล่าวมีอุปนิสัยดี รักเด็ก ชอบเล่นกับเด็กในชุมชนและเคยให้เงิน เด็กๆ กินขนมบ่อยครั้ง แต่ไม่ทราบว่าทำแบบนี้ไปทำไม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี