ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเครือข่ายหลอกลวงลงทุนเทรดเงิน

วันนี้ (24 ม.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.  พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป.นำกำลัง เข้าจับกุม น.ส.เมย์ธิกา อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1377/2567 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าสถานีรถไฟปัตตานี อ.คกโพธิ์ จ.ปัตตานี

การจับกุมดังกล่าว เนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 มีหมายเลขโทรศัพท์ปริศนาโทร.มาหานางจิตติมา ผู้เสียหาย ชักชวนให้ทำงานพิเศษ และขอไอดีไลน์ ซึ่งทางผู้เสียหายได้ให้ไป จากนั้นได้มีผู้ใช้บัญชี LINE ชื่อ “ผู้ดูแล อลิตา” ทักมาอธิบายรายละเอียดของงานที่ต้องทำ ว่าเป็นการกดไลน์สินค้า แล้วจะได้ค่าคอมมิชชั่น 10 บาทต่อครั้ง ในวันหนึ่งจะมี 9-10 งาน และจะมีงานพิเศษที่ต้องโอนเงินเข้าไปเพื่อลงทุน โดยจะได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะกว่าเดิม ซึ่งในช่วงแรกๆ กดไลน์ 5 ครั้ง จะได้กำไร 50 บาท โดยไม่ต้องโอนเงินมาก่อน จากนั้น LINE ทางการชื่อ “ผู้ดูแล อลิตา” ให้โอนเงินไปก่อน 100 บาท ภายหลังโอนเงินแล้วให้ทำตามขั้นตอน คือไปกดเทรดหุ้น  ในลิงค์ที่บัญชีไลน์ชื่อว่า “อลิตา” คือ http://zipmex008.co.cc ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนและได้ค่าคอมมิชชั่นจริง มีการโอนเข้ามาในบัญชี

จากนั้นยังหลอกลวงว่ามีภารกิจพิเศษให้ทำอีก โดยให้โอนเงินไปลงทุน 400 บาท 600 บาท และ 800 บาท เมื่อโอนเงินเสร็จแล้ว บัญชี LINE ชื่อ “ผู้ดูแล อลิตา” ให้ไปทำกิจกรรม ต่อกับ บัญชีไลน์ชื่อว่า  ผู้เชี่ยวชาญธธิชา และบัญชีไลน์ธธิชา บอกว่าจะได้กำไร 30 % กิจกรรมก็เหมือนเดิมกดลิงค์ตามที่บอกได้ค่าคอมมิชชั่นแต่เงินยังอยู่ในระบบไม่สามารถถอนได้ และให้โอนเงินลงทุนไปอีก 12,000 บาท แต่ก็ไม่สามารถถอนได้ จนมียอดเงินในระบบ 23,400 บาท ผู้เสียหายจึงถามไปยังบัญชีไลน์ ธธิชา ผู้เชี่ยวชาญ ธธิชา บอกว่าติดต่อไปที่ศูนย์บริการ และส่งต่อให้ผู้เสียหายคุยในบัญชีไลน์ของศูนย์บริการ ศูนย์บริการแจ้งว่าสลิปยอดเงิน 12,000 บาท ไม่ได้ทำบันทึกช่วยจำ ต้องแก้ไขโดยการโอนเงินไปอีก 12,000 บาท คูณ 5 รวมเป็นเงิน 60,000 บาท และจะสามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว ว่าพบเห็น น.ส.เมย์ธิกา ที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าสถานีรถไฟปัตตานี อ.โคกโพธิ์ จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ น.ส.เมย์ธิกา เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัว ก่อนจะสอบสวนดำเนินคดี โดยคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ตกงานจึงสมัครงานออนไลน์เกี่ยวกับแลกเปลี่ยนสกุลเงิน แล้วถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารหลายๆ ธนาคาร จากนั้นได้ถูกพาตัวไปกักขังในคาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนจะทำหน้าที่สแกนใบหน้าผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารเพื่อโอนเงิน ซึ่งมีผู้จัดการเป็นชาวจีน หากหลบหนีจะมีการทรมานและทำร้ายร่างกายในรูปแบบต่างๆ กระทั่งหนึ่งในคนที่ไปด้วยกัน ได้โทร.ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จึงหนีกลับมาได้ และได้ถูกออกหมายจับดังกล่าว