พรรคประชาชนยกทัพใหญ่ นำโดย“พิธา-วิโรจน์-เบญจา“หาเสียงช่วย”ชลธี“นั่ง”นายกอบจ.ตราดสมัยแรก“ 

ความเคลื่อนไหวของการหาเสียงเลือกตั้ง”นายกอบจ.ตราดและสมาชิกสภาอบจ.ตราด”ที่จะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นั้น ซึ่งเหลือเพียง 7 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง ทำให้กลุ่มการเมือง 3 กลุ่มที่ส่งผู้ลงสมัครเคลื่อนไหวหาเสียงถี่มากขึ้น

โดยในเวลา 15.00 น.วันที่ 24 มกราคม 2568 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล,นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค,นางสาวเบญจา แสงจันทร์ กรรมการพรรคประชาชน นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคประชาชน ยกทีมชุดใหญ่ของพรรคประชาชนมาช่วยหาเสียงให้กับนายชลธี นุ่มหนู ผู้สมัครนายกอบจ.ตราด ซี่งระหว่างนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนางสาวเบญจา แสงจันทร์ ก่อนเดินทางไปขึ้นรถแห่ปราศรัยก้บพี่น้องชาวตราดไปในพื้นที่ต.วังกระแจะ และต.หนองเสม็ดที่เป็นพื้นที่รอบตัวเมืองตราด

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อเดินทางมาถึง ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปหาเสียง มีนายศักดินัย นุ่มหนู และนายชลธี นุ่มหนูร่วม

นายพิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่กังวลในเรื่องของการเดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งของพี่น้องประชาชน เพราะจากการเดินทางไปหาเสียงในหลายพื้นที่ก็ยังพบว่ามีพี่น้องประชาชนเข้ามาทักทายเข้ามาถ่ายรูปและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีแต่ในเรื่องการเดินทางมาใช้สิทธิ์ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา ว่าพี่น้องประชาชนจะเดินทางมาใช้สิทธิ์มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากประชาชนยังไม่เข้าใจว่าการเลือกตั้งในท้องถิ่นมีความสำคัญกับชีวิตประจำวันอย่างไร?

ขณะที่พรรคประชาชนได้ทำแคมเปญเกี่ยวกับการหาเสียงในการเลือกตั้งในท้องถิ่นในเรื่องของการตั้งงบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่นซึ่งในแต่ละจังหวัดมีไม่เท่ากัน ถึงงบประมาณ ที่บางจังหวัด มีระดับพัน บางจังหวัด เช่นระยองมีมากถึง 4 พันล้าน 4 ปีก็ 16,000 ล้านบาท โดยการแข่งขันเสนอนโยบายของแต่บะกลุ่มก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจแต่ ในห่วงในเรื่องของการเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เช่นที่ ผ่านมาที่อุบล หรือจังหวัดอื่นๆยัลอยู่ในระดับ 50-60 % เท่านั้น ซึ่งหากมาใช้สิทธิเกินร้อยละ 70-80 น่าจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาชนมีโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งมากขึ้น

“หากประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งสักร้อยละ 70-80 ที่เป็นมาตรฐานสากลก็จะเป็รเรื่องที่ดี แต่การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นไม่สามารถลงใช้สิทธิล่วงหน้า ไม่สามารถเลือกนอเขตเลือกตั้งได้ และยังเลือกตั้งวันเสาร์ ห่างจากวันปีใหม่เพียง 1 เดือนเท่านั้น เพราะจากการมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่อุดร อุบลนั้นประชาชนมาใช้สิทธิ 50-60 % เป็นเรื่อบที่ห่วงมากกว่า“นายพิธากล่าว และในวันเลือกตั้งจึงอยากจะขอเชิญชวนชาวไทยเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากๆเพื่อเปลี่ยนท้องถิ่น ของประเทศไทยให้เจริญเติบโตขึ้น"นายพิธา กล่าว

สำหรับนายชลธี นุ่มหนู ผู้สมัครนาย กอบจ.ตราดนั้น นายพิธา กล่าวว่า เป็นข้าราชการน้ำดี เป็นข้าราชการดีเด่น และเป็นมือปราบทุเรียนอ่อนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์หากได้รับเลือกตั้งเข้าไปจะทำให้อบจ.ตราดเปลี่ยนแปลงและทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และนายชลธี นุ่มหนูสามารถบริหารงานในอบจ.ตราดได้

จากนั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นรถแห่พร้อมนายชลธี นุ่มหนู และนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราดร่วมเดินทางไปหาเสียงในพื้นที่ใกล้เคียง และในเวลา 16.30 น.นายพิธิา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินทางมาถีงบริเวณข้างโรงเรียนอนุบาลตราดพร้อมรถแห่อีกคันหนึ่งและมาสบทบกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นางสาวเบญจา แสงจันทร์ และนายธีรัจชัย พันธุมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพ พรรคประชาชนอีก 2 คนร่วมปราศรัยท่ามประชาชนชาวตราดกว่า 200 คน และเยาวชนตราดอีกจำนวนหนึ่งร่วมรับฟัง โดยเฉพาะช่วงที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปราศรัยมีชาวตราดเดินทาบมาเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง