ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการหลอกส่งหญิงไทยบังคับค้าประเวณีที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รอง ผบก.อก.บช.ส.รรท.ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุลรอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ร่วมกันจับกุม นางแสงหยาดฯ อายุ 54 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดย มิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ” สถานที่จับกุม บริเวณร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 กระทรวงต่างประเทศได้ช่วยเหลือหญิงไทย จำนวน 3 ราย ที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานร้านนวดแล้วถูกบังคับให้ค้าประเวณีที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และ ดำเนินการตามกลไกการส่งต่อระดับชาติเพื่อการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย (National Referral Mechanism) เพื่อให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย และคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
จากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายได้รับการติดต่อชักชวนจากนางแสงหยาดฯ ซึ่งมีคนแนะนำให้รู้จักกัน ให้ไปทำงานร้านนวด ของน.ส.บุหงาฯ ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยอ้างว่า มีรายได้ดี มีลูกค้าเยอะ ซึ่งจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ผู้เสียหายทั้งหมด กลุ่มผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ จึงได้เดินทางไปทำงานร้านดังกล่าว เมื่อไปถึงได้พบกับนายนาซมูล ชาวบังคลาเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ปรากฏว่าโดนบังคับให้ค้าประเวณี โดยยึดหนังสือเดินทางและกักขังไว้ภายในร้าน โดยมีการ์ดคุมตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถออกไปไหนได้ ทั้งโดนถูกข่มขู่ว่าหากไม่ยินยอมทำงานจะโดยทำร้ายร่างกาย โดยต้องทำงานขายประเวณีเพื่อหาเงินชดใช้ค่าเดินทางที่ได้ออกให้กับผู้เสียหายคนละ 70,000 บาท จึงจะสามารถเดินทางกลับได้ กลุ่มผู้เสียหายจึงต้องจำยอมทำการขายประเวณีให้กับทางร้านอยู่ 3 วัน สบโอกาส จึงหลบหนีออกมาจากร้านดังกล่าว แล้วประสานสถานกงสุลไทย ประจำประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เข้าช่วยเหลือให้เดินทางกลับมาประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.2 บก.ปคม.
ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบผู้กระทำความผิดในคดีนี้ และสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.บุหงาฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 (เป็นคนชักชวน และเป็นภรรยาของนายนาซมูล หรือ Mr.Nazmul ที่เปิดร้านนวดอยู่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) 2.นางแสงหยาดฯ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นคนชักชวนผู้เสียหาย พาผู้เสียหายไปทำหนังสือเดินทาง และพาผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3.นายนาซมูล หรือ Mr.Nazmul สัญชาติบังกลาเทศ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 (เป็นเจ้าของซ่องที่บังคับให้ผู้เสียหายขายบริการทางเพศ) 4.นายซาฟรัส (Sarfraz) ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 (เป็นการ์ดประจำซ่องที่บังคับให้ขายบริการทางเพศ)
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ได้สืบสวนจนพิสูจน์ทราบตัวผู้ร่วมขบวนการที่หลอกผู้เสียหายไปทำงานที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์และได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมนางแสงหยาดฯ ซึ่งทำหน้าที่ในการชักชวนผู้เสียหายซึ่งหนึ่งในผู้เสียหายเป็นหลานสาวของตนเอง เพื่อไปทำงานร้านนวดโดยได้พาผู้เสียหายไปทำพาสปอร์ตเอกสารการเดินทางและพาไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปทำงานที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ได้สืบทราบว่า นางแสงหยาดฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้พักอาศัยและเปิดร้านคาราโอเกะ ในซอยแบริ่ง ต.สำโรงเหนือ จว.สมุทรปราการ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวนางแสงหยาดฯ ผู้ต้องหาหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการได้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือหลบหนีอยู่ต่างประเทศ จึงได้แจ้งข้อกล่าวให้ทราบว่า “ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ” ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนประผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ จะได้ประสานตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธว่าตนเองได้ชักชวนผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านของนางบุหงาฯ และนายนาซมูลฯ สัญชาติบังกลาเทศจริง โดยเป็นผู้พาไปทำหนังสือเดินทางและพาไปส่งสนามบิน แต่ไม่ทราบว่ากลุ่มผู้เสียหายจะถูกบังคับให้ขายบริการ เข้าใจว่าเป็นงานร้านนวดปกติตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ผู้ที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศผ่านช่องทางสื่อโซเชียลอาจถูกหลอกและตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพและถูกล่อลวงไปกระทำสิ่งไม่ดี ซึ่งสิ่งที่ต้องพึงระวังคือถ้าไม่จำเป็นอย่าเชื่อใจคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันอาจนำภัยมาให้แก่ตนเองและเป็นอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินสิ่งมีค่า ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.ณรงเวทย์ จิวเดช สว.กก.2 บก.ปคม. โทร. 093-1626888
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี