กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 ใช้ยาแรงฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
วันที่ 25 มกราคม 2568 นายเอกวิทย์ มีเพียร ผวจ.แม่ฮ่องสอน และ ผอ.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM 2.5 และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีตั้งครรภ์ และผู้มีโรคระบบทางเดินหายใจ
ด้วยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายนของทุกปี จังหวัดแม่ฮ่อองสอน ต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มีความรุนแรง โดยมีสาเหตุมาจากการเผาในที่โล่ง ทั้งการเผาเพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ รวมถึงการกำจัดวัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ในที่ดินทำกินของเกษตรกร โดยไม่มีการควบคุม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นสาธารณภัย ที่มีผลกระทบต่อสาธารณชนในวงกว้าง
ดังนั้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 มาตรา 21 มาตรา 22 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาธารณภัย พ.ศ. 2550 ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด จึงกำหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน/ตำบล/อำเภอ ในท้องที่จังหวัดแม่แม่ฮ่องสอน เป็น "เขตห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด" ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 ยกเว้นพื้นที่ตามแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันไฟป่า หรือเหตุจำเป็นอื่น ซึ่งดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ พ.ศ. 2562 รวมถึงแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิง ที่ได้รับความเห็นชอบ จากศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดแม่ฮ่องสอน และกำหนดแนวทางปฏิบัติ สำหรับ "เขตห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด" ดังนี้
1. ในพื้นที่ชุมชน ห้ามมิให้กำจัดวัชพืช ขยะ หรือสิ่งอื่นใดโดยการเผาอย่างเด็ดขาด
2. การใช้ไฟบริหารจัดการเชื้อเพลิง ตามหลักวิชาการ ซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่ ให้ยื่นคำขอในระบบ Fire D ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่จะบริหารจัดการเชื้อเพลิงตั้งอยู่ โดยให้นายอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ
3. ในพื้นที่การเกษตรที่มีความจำเป็นต้องบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยใช้ไฟ ให้เกษตรกรแจ้งขออนุญาต ผ่านระบบ Fire D ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่จะบริหารจัดการเชื้อเพลิงตั้งอยู่ โดยให้นายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการอำเภอ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้ ต้องจัดทำแนวกันไฟไฟโดยรอบ และควบคุมมิให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ รวมทั้งให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุน การดำเนินการ ดังกล่าว
4. ในพื้นที่ป่า ที่ไม่ใช่พื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิง ราษฎรต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการดับไฟป่า กรณีทางราชการร้องขอ และหากพบเห็นไฟป่าบริเวณใด ให้ดำเนินการดับเสียแต่ต้น เพื่อไม่ไม่ให้ไฟป่าขยายออกเป็นวงกว้าง หากไฟป่ารุนแรงไม่สามารถดับได้ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานกรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ใกล้เคียง เข้าระงับดับไฟป่าทันที
5. ในกรณีที่มีอากาศปิดและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานจนอาจเป็นอันตราย และมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไป จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีคำสั่งฯ ระงับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงไว้จนกว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
6. หากสถานการณ์รุนแรง ให้อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 4 มาตรา 15 มาตรา 20 และมาตรา 21แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ประกาศเขตพื้นที่/เขตการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7. ให้ข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ทุกสังกัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น คณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการชุมชน ให้ถือเป็นหน้าที่ต้องสอดส่องดูแล และร่วมชี้แจงให้ราษฎร ในท้องที่ ปฏิบัติตามประกาศฯ ฉบับนี้อย่างเคร่งครัด
และ 8. หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศฯ ฉบับนี้ ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบพื้นที่ตามกฎหมาย มีหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความจับกุม ดำเนินคดีทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แก่บุคคลผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด
จังหวัดแม่ฮ่องสอนขอความร่วมมือผู้พบเห็นการเผาในที่โล่งทุกชนิด ให้รีบแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังต่อไปนี้
1. ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตป่าไม้อื่น ให้แจ้งศูนย์ปฏิบัฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (War Room) หมายเลขโทรศัพท์ 053 695 466 หรือสายด่วน 1362
2. นอกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้อื่น ตามข้อ 1) ข้างต้น. ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สายด่วน 191 หรือสายด่วนนิรภัย 1784
และ 3. ในพื้นที่ริมทางหลวง ริมทางหลวงชนบท ริมทางถนนท้องถิ่น ให้แจ้งหน่วยงานรับผิดชอบเขตทางนั้น บริเวณริมทางหลวง หมายเลขโทรศัพท์ 053 684 104 หรือแจ้งสายด่วน 1586, บริเวณริมทางถนนทางหลวงชนบท หมายเลขโทรศัพท์ 053 612 162 หรือ สายด่วน 1146
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร 053-614-313
- 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี