“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจประชาชนกว่า 59% ไม่เห็นด้วยนโยบายลงทุน ทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน รวมถึงการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การพนันร้อนๆมาแล้วจ้า …” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-21มกราคม2568 จากประชาชนอายุ18ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.16 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ร้อยละ 8.63 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีกาสิโน ร้อยละ 1.68 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 1.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับกาสิโนเพียงอย่างเดียว
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการแก้กฎหมายให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.92 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ10.31ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำประชามติเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.07 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย รองลงมา ร้อยละ 37.86 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ ทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ร้อยละ 5.11 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน ร้อยละ 3.89 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ร้อยละ 1.99 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ตอบ
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.35 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง
ตัวอย่าง ร้อยละ12.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.24 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 24.81 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.18 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.98 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.84 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท-คุยการเมือง” เรื่อง”ติวเรื่องคาสิโน ให้อุ๊งอิ๊ง”มีเนื้อหาว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการสร้างบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ว่า “เราไม่ได้เปิดบ่อนเสรี แต่เป็นการสร้างที่ท่องเที่ยวใหม่ด้วย Man made ซึ่งกาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด ผมอยากทำความเข้าใจว่า ความหมายของบ่อนเสรี คือบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย และเปิดให้มีใบอนุญาตเปิดคาสิโนได้จำนวนมากถึง 10ใบ ไม่ต่างอะไรกับการเปิดบ่อนเสรี จะอ้างว่าเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ก็ตาม แต่คาสิโนคือหัวใจของอินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ทำรายได้สูงสุดของธุรกิจบันเทิง แต่สร้างผลกระทบทางสังคมมากที่สุด จะอ้างว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ไม่เป็นความจริง เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยว ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ดีกว่าคาสิโนมากมาย เราไม่ควรนำเรื่องคาสิโนมาแข่งขันกับประเทศสิงคโปร์ มาเก๊า หรือประเทศเพื่อนบ้าน
กรณีที่ น.ส.แพทองธาร อ้างว่า “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อทำให้ประเทศไทยเกิดรายได้ใหม่ๆ เพิ่มเติม เพราะรายได้เก่าไม่เพียงพอ ทำให้จีดีพีของเราโต รวมถึงจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และการประกอบอาชีพใหม่ นี่คือสิ่งสำคัญ” ก็ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน เป็นเพียงข้ออ้างของรัฐบาลตามความต้องการของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่อยากปั่นจีดีพีของประเทศให้สูงขึ้น ตามที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ในเวทีต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริง เราสามารถหารายได้จากการท่องเที่ยวแหล่งอื่นๆ ใช้จุดเด่นด้านความเป็นธรรมชาติ และวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามของประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งอบายมุข เป็นจุดขายการท่องเที่ยวเลย
ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร บอกว่า“การจะไม่เอาสิ่งนั้นสิ่งนี้ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ว่าสิ่งที่ประชาชนเข้าใจนั้น รัฐบาลตอบว่าอย่างไร เราต้องช่วยๆ กันอธิบาย” ในประเด็นนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องอธิบายหรือทำความเข้าใจอะไรมาก เพราะทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านการเปิดบ่อนคาสิโน ได้เสนอข้อมูลต่อประชาชนกันอย่างกว้างขวางพอสมควรแล้ว ถ้าหากรัฐบาลจะให้ประชาชนมีส่วนร่วม และตัดสินใจร่วมกัน ก็ควรจะทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนจะเป็นการดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี