27 มกราคม 2568 บรรยากาศก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาหาซื้อเครื่องประดับบ้าน และสิ่งของประกอบการไหว้เจ้าในวันตรุษจีนกันอย่างคึกคัก เช่น ที่ร้านบุญมาพานิช ในเขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องประดับ และสิ่งของประกอบการไหว้เจ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนได้ออกมาเลือกซื้อสิ่งของประกอบการไหว้เจ้า และเครื่องประดับบ้าน เพื่อเตรียมนำมาประดับตกแต่งบ้าน และไหว้พระกับบรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
ทางร้านได้ทำการตกแต่งร้านเพื่อรับเทศกาลตรุษจีนอย่างสวยงาม เพื่อดึงดูดลูกค้า พร้อมกับสินค้ามงคลในวันตรุษจีนหลากหลายรูปแบบ ทั้งโคมไฟ โคมประทัด โคมรูปปลา และเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนับถือไว้บริการลูกค้าที่ซื้อไปประดับไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง และครอบครัวจะได้มีโชคมีลาภในวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน
นายธนพงศ์ ชัยหิรัญวงศ์ เจ้าของร้านบุญมาพานิช กล่าวว่า ตรุษจีนปีนี้ได้สั่งเครื่องประดับบ้านที่เป็นของมงคลเข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งพวกปลา โคมไฟ โดยสั่งของมาจากกรุงเทพฯและสั่งจากเมืองจีนบางส่วน แต่ช่วงตรุษจีนปีนี้ลูกค้าน้อยลง และยอดขายลดลงกว่าปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่วนราคาสินค้ายังคงราคาเดิม ทั้งนี้ ชาวไทยเชื้อสายจีนใน จ.สงขลา ยังคงสืบทอดประเพณีจากบรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ส่วนร้านข้าวสตูเกียดฟั่ง ร้านดังกลางเมืองสงขลา ซึ่งเป็นร้านข้าวสตูย่านชุมชนเมืองเก่า ถนนนางงาม คุณธนธร ศิริคติธรรม หรือคุณหลั่น เจ้าของร้าน พร้อมพนักงานในร้านทุกคน ต่างช่วยกันทำความสะอาดล้างภายในร้านค้า เพื่อเตรียมต้อนรับวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของจีน ตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ทางจันทรคติของจีน โดยมีธรรมเนียมปฏิบัติกัน 3 วัน คือ “วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว”และจะปิดร้านหยุดยาว 7 วัน สำหรับปีนี้วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ก็จะปิดร้านตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2568 – 2 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพาครอบ ครัวไปเยี่ยมญาติพี่น้องและเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด หลังที่ต้องทำงานมาตลอดทั้งปี และเปิดร้านขายปรกติในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568
คุณธนธร ศิริคติธรรม เจ้าของร้านข้าวสตูเกียดฟั่ง เปิดเผยว่า วันนี้ที่ร้านทำความสะอาดร้านตรุษจีน ก่อนวันไหว้ ซึ่งต้องทำความสะอาดทุกปีที่ต้องทำ โดยที่ร้านจะหยุด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ในปีนี้เนื่องจากคุณแม่มีอายุมากแล้ว ก็เลยพาไปเยี่ยมญาติๆที่ต่างจังหวัด โดยไปกันหลายครอบครัว ไปทานข้าว ไปสังสรรค์ไปเจอกัน ถือว่า เป็นการไปพักผ่อน พบปะกับญาติๆ โดยถือโอกาสบอกลูกค้าว่า ทางร้านปิดตรุษจีนอาทิตย์นึง เปิดขายปกติวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ลูกค้ามาทานได้เลย
ปัจจุบันลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีน อาจจะทำตามธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ไม่ครบถ้วนทั้งหมด แต่ก็สืบสานว่า เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ที่ชาวจีนมักปฏิบัติสิ่งที่ดีงามกัน ทำเท่าที่กำลังความสามารถจะทำได้ และถือว่าเป็นการทำเพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อความเติบโต ก้าวหน้าของตัวเอง และครอบครัวเพื่อให้เกิดความสุขรับปีใหม่ในวันตรุษจีน
ด้านตลาดสดสตาร์ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตลาดกลางขายของสดที่ใหญ่ที่สุดของระยอง ปรากฎว่า มีชาวระยองแห่กันมาซื้อสินค้ากันจำนวนมาก จนทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก กับ ผู้คนจำนวนมากแห่กันจับจ่ายซื้อของไหว้
พอค้าแม่ค้าบอกว่าขายดีทุกอย่างเพราะว่าที่ผ่านกลัวโควิดกันตรวจสอบราคาผัก กล่ำปลี ผักกากขาว โลละ 20 ถึง 25 บาท จะมีแพงคือ ตันกระเทียม โละ 80-100 บาท เพราะต้องผัดกับหมี่ซั่ว ส่วนหัวหมูต้มสำหรับใช้ไหว้เจ้าปีนี้ราคาไม่แพงเท่าไร ส่วนมะพร้าวปีนี้ก็แพงเพราะสภาพอากาศแล้ง ตอนนี้ลูกละ 40-55 บาท ขนมเทียน ปีที่แล้ว กก.ละ149 ขึ้นมากก.ละ150 บาทค่าแก๊สแพงขึ้น ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลมากันซื้อสินค้ามากมาย
จากการสอบถามประชาชนที่มาเดินตลาด บอกว่า ต้องซื้อของเซ่นไว้ทุกปี ไหว้ 5 แห่ง ว่า ปกติซื้อหัวดิบไปต้มเอ็ง แต่ปีนี้ซื้อหัวหมูต้มแล้วเพราะ ราคาไรเรี่ยกัน หัวเล็ก 450 บาท กลาง 500 บาท ใหญ่ 600 บาท ไม่ต้องเสียเวลาไปต้มเอง ส่วนด้านผลไม้ทุกชนิดก็ราคาแพงกว่าปีที่ผ่านอย่างละ 10 บาท ต่อหวี กล้วยแม่ค้าบอกว่าแพงหน่อยต้องขึ้นราคาเพราะค้าขนส่ง ปีนี้ลูกมะพร้าวแพงมาก นอกจากนี้ขาวไทยเชื้อสายจีนยังแห่กันซื้อชุดไหว้ และ ชุดไทยไปถวายเจ้าแม่ตะเคียน เพื่อเป็นสิริมงคล จนแม่ค้าชุดไทยขายดีกว่าปกติ
จังหวัดอ่างทองบรรยากาศจับจ่ายซื้อของเทศกาลตรุษจีน ที่ตลาดสดเทศบาล 2 เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนเดินทางออกมาจับจ่ายซื้อหมู เป็ด ไก่ เพื่อนำไปเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษคึกคัก บรรดาพ่อค้าแม่ค้านำไก่ หมู เป็ดออกมาต้มเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้ากันอย่างต่อเนื่อง
เจ๊เจี๊ยบ วัย 54ปี แม่ค้าเป็ด กล่าวว่า ปีนี้บรรยากาศจับจ่ายซื้อของคึกคักมา โดยเป็ดพะโล้อยู่ที่ราคาตัวละ 400 บาท ไก่ต้ม 220 บาท แถมเครื่องในน้ำจิ้ม หมูชิ้นเล็ก 150 บาท หมูชิ้นใหญ่ 300 บาท หัวหมู 700 บาท ส่วนผลไม้ ส้มเขียวหวาน ราคายังอยู่ที่ 40-60 บาท แล้วแต่สายพันธุ์ แอปเปิลราคาลูก 20 บาท บาท ขนมเข่ง ขนมเทียน อยู่ที่ชิ้นละ 6-7 บาท
ส่วนทางด้าน ป้าวาย วัย 62ปี ผู้สูงอายุเผยดีใจมาก วันนี้ได้รับเงินหมื่นที่รัฐบาลให้มาแล้วและนำเงินไปจับจ่ายใช้สอบซื้อข้าวของ จ่ายค่าน้ำน้ำ ค่าไฟ ใช้หนี้ที่ เหลือก็เก็บไว้ทำทุนในยามจำเป็นต่อไป ขอขอบคุณทางรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนให้เงินหมื่นมาจับจ่ายใช้สอย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี