นำร่องห้ามเผาแล้ว 17 จังหวัดภาคเหนือ! ‘มท.1’ กำชับผู้ว่าฯทั่วประเทศ ‘กล้าหาญ’ เข้มใช้กม.จริงจังป้อง ‘ฝุ่นPM2.5-ไฟป่า-หมอกควัน’ ยึดความปลอดภัย-สุขภาพประชาชน อย่าปล่อยชาวบ้านเดือดร้อน
27ม.ค.2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย คณะผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ยังประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศร่วมประชุม
นายอนุทิน กล่าวว่า การบรรเทาสาธารณภัยด้วยการจ่ายเงินเยียวยา เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน จ่ายมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ ทุกฝ่ายจึงต้องมาร่วมกันหาทางในการป้องกัน เช่นวันนี้ที่ อ.แม่แจ่ม ได้เห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. ชุดปฏิบัติการฯ สิงห์ไฟ กรมการปกครอง เสือไฟ กรมอุทยานฯ เหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ และอาสาสมัครภาคประชาชน ทั้ง อสม. และทุกส่วน ไปช่วยรณรงค์ฝังกลบ มีเครื่องแพ็คอัดซังข้าวโพดให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม โดยที่ไปตรวจติดตามวันนี้เป็นกองภูเขามีซังข้าวโพดประมาณ 7 แสนกิโลกรัมหรือ700 ตัน นี่เพียงแค่พื้นที่เดียว ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจและไม่วางแผนที่ดี หากไปเผาเข้า จะสร้างความเสียหายมหาศาล จะมากกว่า PM2.5 เพราะมันจะมีขี้เถ้าฟุ้งกระจาย และพ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) ในพื้นที่เขาบอกว่า กองที่เห็นวันนี้ต้องใช้เวลาถึง 15 วันในการเผา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจะส่งผลเสียกับประชาชนขนาดไหน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ดังนั้น ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้ความกล้าหาญ และอำนาจที่มีอยู่ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง และทราบว่า ท่านผู้ว่าฯ ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ประกาศให้พื้นที่เป็นเขตห้ามเผาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ได้ใช้บังคับกติกาตามประกาศอย่างจริงจังเข้มข้นและต่อเนื่อง ดังที่ทุกท่านมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่ โดยผู้บริหารระดับสูงมีความตั้งใจที่จะให้การช่วยเหลือและสนับสนุนบทบาททุกท่านอย่างเข้มแข็ง ทั้งด้านงบประมาณ บุคลากรและด้านอื่น ๆ
"หน้าที่ของคนมหาดไทย คือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ถอดวงเล็บเพื่อแก้ปัญหาทีละเล็กทีละน้อย เพราะอย่างน้อยปัญหาเล็ก ๆ ในวงเล็บก็จะได้รับการแก้ไข ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องร่วมกันระดมสมองระดมสรรพกำลังกลไกต่างๆ ในพื้นที่ เราจะปล่อยให้ประเทศไทยเผชิญกับสาธารณภัยตลอดทั้งปีไม่ได้ เพราะคนที่เดือดร้อนคือประชาชน และประการที่สำคัญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดคือผู้บังคับบัญชาของข้าราชการในพื้นที่จังหวัด ที่ต้องบริหารทรัพยากรในพื้นที่ เพราะทุกคนคือข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน ต้องทำงานด้วยความเข้าใจ" นายอนุทิน กล่าว
ด้านปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สิ่งที่ท้าทายที่สุด คือ ต้องทำอย่างไรให้ปัญหาฝุ่นละอองหมอกควันและไฟป่าลดลงมากที่สุด ซึ่งแนวทางบังคับใช้กฎหมายที่ต้องทำอย่างจริงจัง สามารถใช้ระเบียบข้อบังคับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเอาผิดกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิด อยากเช่นที่บางจังหวัดมีการเซลฟี่ภาพกำลังเผาวัสดุทางการเกษตรก็ได้ถูกดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอให้ทุกจังหวัดมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ใช้กฎหมายทุกฉบับบังคับใช้อย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี