ขันน็อต 5 นโยบายหลัก! "มท.1"สั่ง"ผู้ว่าฯ-นอภ."เข้มสกัดลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย-ธุรกิจสีเทา ลั่น!ต้องไม่มีต่างชาติมารังแกคนไทย แนะใช้"กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน"ลงให้ความรู้ป้อง"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ย้ำจ่ายไฟไปประเทศเพื่อนบ้าน"มีข้อตกลงทวิฯ-ไฟเขียวสัมปทาน-หน่วยมั่นคงเช็คแล้ว" กำชับ"เลือกตั้งท้องถิ่น"ขรก.ต้องวางตัวเป็นกลาง
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมมอบแนวทางฯ ด้วย
นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า ตนมีความตั้งใจมาพบปะและประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบพร้อมหน้าเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย เห็นทัศนคติ และความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งตนเน้นย้ำเสมอว่า ผู้ว่าฯ ต้องเป็นทั้งนักปกครองและนักบริหาร ทำหน้าที่เพื่อให้นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยประสบความสำเร็จด้วยการใช้อำนาจหน้าที่มาเกื้อหนุนกัน หากขาดเหลือสิ่งใดขอให้ประสานรับการสนับสนุนมายังส่วนกลาง
"พวกเราทำงานโดยภารกิจหน้าที่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ซึ่งหากพวกเรานำสำนวนสุภาษิตภาษาอังกฤษที่ว่า "There is no limit to what a man can do or where he can go if he doesn’t mind who gets the credit. : หากเราไม่สนใจในเรื่องเครดิตหรือหน้าตาแล้ว เราทำอะไรก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ ไม่มีข้อจำกัด" อันหมายความว่า ไม่มีใครทำอะไรให้เราปลื้มใจได้เท่ากับตัวเราเอง ไม่ต้องให้ใครชม แต่เราบอกกับตัวเองว่า เมื่อเราทำสิ่งที่ดีแล้วเราได้เห็นพี่น้องประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส หัวเราะ มีความสุข เราก็ปลื้มใจ"
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้นำนโยบายด้านการบริหารงานบุคคลส่วนภูมิภาค ด้วยการกำหนดกลุ่มภารกิจของรองผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีความชัดเจนและสนองตอบต่อสภาพสังคมปัจจุบัน รวม 4 ด้าน คือ รองผู้ว่าฯ ด้านความมั่นคง ด้านบริหาร ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านเศรษฐกิจ ที่จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจฐานราก
นายอนุทิน ยังได้เน้นย้ำนโยบาย 5 ด้านที่สำคัญ ว่า 1.การจัดระเบียบสังคม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช้อิทธิพลไปข่มขู่ผู้ที่มีกำลังน้อยกว่า ควบคู่การปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การแฝงตัวของนักธุรกิจต่างชาติมาทำธุรกิจสีเทาหรือธุรกิจมืดจนกระทบคนไทยที่ทำมาหากินโดยสุจริต และต้องไม่ให้เกิดกรณีคนต่างชาติมาข่มเหงประชาชนคนไทยเป็นอันขาดและต้องไม่มีตลอดไป ศักดิ์ศรีความเป็นคนไทยต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด 2.การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ฝ่ายปกครองต้องสนธิกำลังปราบปราม ป้องกัน สกัดกั้น และทำลายให้เข้มข้นต่อเนื่อง "การ์ดต้องไม่ตก 3.การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการเพิ่มช่องทางและหาตลาด หาโอกาสให้ประชาชนสามารถหารายได้เพิ่มขึ้น 4.การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน โดยไม่มีคำว่าเที่ยวเมืองรอง ต้องทำให้เมืองทุกเมืองเป็นเมืองหลักของการท่องเที่ยว และ 5.น้ำดื่มสะอาด ที่ทุกจังหวัดต้องทำให้มีน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ด้วยการร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และกลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการป้องกันและแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ว่า ผู้ว่าฯ ต้องกำชับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้สร้างความรู้ให้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ส่วนประเด็นที่มีการะบุว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ได้ด้วยการส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในประเทศไทย ก็ไม่เป็นจริง เพราะการส่งไฟฟ้าไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ต้องมีข้อตกลงทวิภาคี โดยหน่วยงานที่ซื้อกระแสไฟฟ้าจะต้องได้รับอนุญาตและรับสัมปทานจากประเทศปลายทางตามข้อตกลงทวิภาคี และต้องได้รับการยืนยันจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศไทย กฟภ.จึงสามารถจำหน่ายไฟให้กับหน่วยงานนั้นๆ ได้
"คนมหาดไทยทำงานด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำงานด้วยความรวดเร็ว และไม่ว่าเรื่องใดๆ หากต้องขับเคลื่อนในพื้นที่จังหวัดก็หนีไม่พ้นความรับผิดชอบของคนมหาดไทย เพราะผู้ว่าฯ ต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนทุกภารกิจในพื้นที่จังหวัด ผู้ว่าฯ คือทุกสิ่งทุกอย่างในจังหวัดที่ต้องทำให้ประชาชนทุกคนมีความสุข ส่วนกลางพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่องตามขั้นตอนกฎหมาย มีสุจริตเป็นที่ตั้ง ทำหน้าที่ให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำกับข้าราชการการเมืองต่างก็ต้องทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ถ้าทำงานไม่ตรงกัน ไม่เป็นเนื้อเดียวกันคนที่เสียประโยชน์ คือ ประชาชน" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในส่วนการสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เน้นย้ำว่าข้าราชการทุกคนต้องวางตัวเป็นกลาง และหากมีผู้จะตรวจสอบเรื่องใดใดเป็นพิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องทำให้การเลืกตั้งเกิดความเป็นธรรม ด้วยกลไกปลัดอำเภอ ฝ่ายปกครอง และข้าราชการในอำเภอ ต้องไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่มีการใช้อำนาจในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ด้าน นายอรรษิษฐ์ ได้เชิญพระโอวาทของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดี เป็นเครื่องเตือนใจผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการทุกคน ความว่า "การเลือกใช้คนให้เหมาะแก่ตำแหน่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เป็นนายคน การที่จะรู้ว่าถูกหรือผิดนั้นจะต้องขยันเอาใจใส่อยู่เสมอว่าผลงานที่เขาทำนั้นเป็นอย่างไร ถ้าเขาทำได้ดีก็ต้องยอมให้ว่าเป็นความดีของเขาเอง เราจะรับเอาได้แต่เพียงว่าเลือกคนถูก ถ้าเขาทำผิดเราต้องรับเสียเองว่า เพราะเราเลือกเขา เขาจึงมีโอกาสทำผิด ทั้งนี้อำนาจอยู่ที่ไหน ความรับผิดชอบต้องอยู่ที่นั่นด้วย" จึงขอให้ท่านผู้ว่าฯ ช่วยกันและใช้ประสบการณ์ต่างๆ ในการขับเคลื่อนงาน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี