27 ม.ค. 2568 ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในเวทีรณรงค์สาธารณะเชิญชวนประชาชนเข้าชื่อกฎหมาย “ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ พ.ศ. ..” ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) โดยในตอนหนึ่งระบุว่า ในขณะที่รัฐธรรมนูญไทยมีบทบัญญัติว่าด้วยการให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิดจนกว่าจะมีคำพิพากษาจากศาล
นอกจากนั้นยังระบุด้วยว่า บุคคลที่ศาลยังมิได้ตัดสินว่ากระทำผิด จะปฏิบัติกับบุคคลนั้นเสมือนว่าเป็นผู้กระทำผิดมิได้ แต่ทราบหรือว่าไม่ในเรือนจำนั้น ข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค. 2568 มีผู้ต้องหา หรือผู้ที่ถูกตำรวจจับแล้วตั้งข้อหา และจำเลย หรือผู้ที่ถูกพนักงานอัยการส่งฟ้องศาล อยู่ถึง 74,000 คน คิดเป็นร้อยละ 26 ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด ตนก็มีคำถามว่า ในเมื่อรัฐธรรมนูญระบุห้ามปฏิบัติกับจำเลยหรือผู้ต้องหาเสมือนว่าเป็นผู้กระทำผิด แล้วคนเหล่านี้ถูกนำไปขังร่วมกับนักโทษที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษแล้วได้อย่างไร
“74,000 คนนี้ไม่ใช่แปลว่าศาลไม่ให้ประกัน มีอยู่ครึ่งหนึ่งที่ศาลให้ประกันแต่ไม่มีเงินประกัน แล้วใครที่ไม่มีเงินประกันตัว? คนจน! นี่คือปัญหาในทางปฏิบัติ อีกอันหนึ่ง ตัวเลขปีที่แล้ว ผมไล่ดูเดือนมกราคม-ธันวาคม เรามีคนที่ติดคุกไม่มีเงินจ่ายค่าปรับเฉลี่ยเดือนละ 7,400 คน ผมเอาทุกเดือนบวกกันหาร 12 เจ็ดพันคน เพราะกฎหมายของเราเขียนว่าถ้าผู้ใดต้องโทษปรับแล้วไม่มีเงินหรือทรัพย์สินชำระค่าปรับต้องติดคุก เอาไปกักขังแทนค่าปรับ แล้วไปกักขังที่ไหน? ก็ไปที่เรือนจำ อัตราคือวันละ 500 บาท แล้วกฎหมายสมัยใหม่โทษปรับมันสูงขึ้น” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวต่อไปว่า หากจำกันได้ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เคยมีคดีพนักงานเก็บขยะสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปเก็บแผ่นวีดีโอซีดีภาพยนตร์ได้แล้วนำมาขายเป็นแผ่นมือ 2 ถูกจับดำเนินคดี ศาลก็ลงโทษสถานเบาเนื่องจากจำเลยรับสารภาพ แต่ด้วยความที่อัตราโทษอยู่ที่ปรับตั้งแต่ 2 แสน – 1 ล้านบาท แม้ศาลจะลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษปรับ 134,000 บาท คำถามคือพนักงานเก็บขยะจะมีเงินจ่ายได้อย่างไร
ซึ่งหากไม่มีเงินก็ต้องติดคุก แต่หากมีเงินก็ไม่ต้องติดคุก สรุปว่าความจนเป็นอาชญากรรมอย่างนั้นหรือ แต่ประเทศไทยเราก็ยังคงทำแบบนี้อยู่ ตนไม่ต้องพุดเรื่องอื่นเพราะยังเถียงกันได้ แต่ในคุกเป็นตัวอย่างที่ชัดที่สุด ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไทยตั้งแค่ฉบับ 2540 เป็นต้นมา มีการวางหลักห้ามเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วยเหตุแห่งความแตกต่างไม่ว่าเรื่องเพศ อาชีพการงาน ความคิดความเชื่อ รวมถึงฐานะทางเศรษฐกิจ การที่คน 2 คนทำผิดเหมือนกัน แต่คนที่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับก็ติดคุก แบบนี้ขัดรัฐธรรมนูญ
และแม้ในปี 2545 จะมีการแก้ไขกฎหมาย เปิดช่องให้ทำงานบริการสังคมแทนการจ่ายค่าปรับได้ แต่ในความเป็นจริงก็ยังเป็นว่ามีคนติดคุกเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าปรับอยู่ดี ตามตัวเลขประมาณ 7 พันคนดังกล่าว ดังนั้นนอกจากกฎหมายจะมีปัญหาให้ต้องแก้ไขแล้ว ในทางปฏิบัติก็มีปัญหาเช่นกัน ซึ่งตนพยายามจะอธิบายให้เห็นถึงสิ่งที่บอกกันว่าทำไมคุกถึงมีคนจนอยู่มาก ก็เพราะเราปฏิบัติกันแบบนี้
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี