‘บิ๊กหวาน’รับกังวลไทยถูกใช้เป็นทางผ่าน‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ มีผลกระทบต่อระดับ‘เทียร์’ จ่อใช้ไม้แข็ง‘ตัดสัญญาณเน็ต-ไฟฟ้า’เด็ดขาด เตรียมรับ 61 คนเหยื่อ‘ค้ามนุษย์’ฝั่งเมียวดีกลับไทย 29 ม.ค.68
28 มกราคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ภายหลังนายหลิว จงอี (Mr.Liu Zhongyi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะเข้าหารือ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า วันนี้มีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการขอความร่วมมือทางการไทยในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกระบวนการค้ามนุษย์ หลังพบว่าประเทศไทยถูกใช้เป็นทางผ่านของเครือข่ายดังกล่าวไปยังประเทศเมียนมา โดยเฉพาะตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการปราบปรามและจับกุม พร้อมสกัดกั้นเกี่ยวกับการกระทำผิดดังกล่าว เช่นกรณี “หวัง ซิง” ที่มีการเดินทางมาประเทศไทย ก่อนที่จะถูกหลอกข้ามไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งทางการจีนก็สามารถออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ประมาณ 30 คน โดยขณะนี้จับได้แล้ว 20 คน และไม่พบว่ามีคนไทยไปเกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทางการไทย ที่สามารถกดดันและช่วยเหลือให้ “หวังซิง” ออกมาได้ โดยเรื่องนี้ทางการจีนก็มีความกังวลเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ รวมถึงกรณี “ฉือ จื้อเจียง“ ที่ก่อนหน้าให้ข้อมูลกับตำรวจสากลว่ามีความกังวลเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต ภายใต้การคุมขังภายในคุกไทย เพราะได้รับการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรม อ้างว่าถูกคุมขังเดี่ยว ล่ามโซ่ และปฏิเสธไม่ให้ได้รับการรักษาพยาบาล จากอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง รวมถึงปฏิเสธไม่ให้พบปะกับครอบครัว โดยจากการพูดคุยกับทางการจีนที่เข้าพบในวันนี้ ให้เหตุผลว่าต้องการตัวฉือ จื้อเจียง กลับไปดำเนินคดีที่จีน เนื่องจากเป็นอาชญากรรมอันดับ 1 เกี่ยวกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ แต่ขณะนี้การดำเนินคดียังอยู่การอุทธรณ์ในชั้นศาล แล้วตัวยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เมื่อครบโทษหรือมีการพิจารณาแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานกับทางสำนักงานอัยการสูงสุด ทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับทางการจีน ส่วนข้อเรียกร้องที่มีกระแสข่าวว่าถูกคุกคามในเรือนจำนั้น ในที่ประชุมไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวยอมรับว่ามีการใช้ไทยเป็นทางผ่านของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปฏิเสธไม่ได้ว่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องของการปรับลดการจัดลำดับเทียร์ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อนในปัญหาการค้ามนุษย์ ดังนั้นไทยจึงต้องเพิ่มมาตรการเข้ม โดยเฉพาะในเรื่องของการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ประกอบการมีความพยายามลักลอบในการเชื่อมสัญญาณอยู่ เนื่องจากมีผลประโยชน์มหาศาล ดังนั้นทางการไทยก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งในเรื่องของการโยกย้ายตำรวจในสามพื้นที่ ซึ่งมองว่าเป็นการบริหารงานบุคคลเพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะขณะนี้ยังไม่พบว่าผู้กำกับในสามพื้นที่รวมทั้งข้าราชการอื่นๆ มีความเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์แต่อย่างใด ทั้งนี้การที่ทางการจีนเลือกมาเจรจากับไทย เนื่องจากคิดว่าประเทศไทยเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์มายาวนาน อีกทั้งการเดินทางมาประเทศไทยสะดวก แต่ยอมรับว่ายังไม่ได้มีการคุยกับทางการของเมียนมา
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.68) จะมีการส่งตัวเหยื่อค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์จากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมาให้ยังทางการไทย จำนวน 61 คน ประกอบด้วย ชาวต่างชาติหลายสัญชาติและไม่มีคนไทย มายัง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยหลังจากนั้นทางตำรวจจะนำตัวทั้งหมดเข้าขบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หรือการคัดแยกคัดกรองผู้เสียหายว่าจะเข้าข่ายขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี