นโยบายตัดความช่วยเหลือของ “ทรัมป์”พ่นพิษ ยุติรักษาพยาบาลในศูนย์พักพิงทั้งฝั่งไทย-พม่า ผู้ลี้ภัยกว่า 9 หมื่นแนวชายแดนถูกลอยแพ หวั่นทะลักสถานพยาบาลไทย
28 ม.ค.68 เว็บไซต์ สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. มีประกาศประกาศคณะกรรมการผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยง ค่ายแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ลงวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.2025 เพื่อแจ้งให้ถึงประชาชนที่อยู่ในค่ายแม่หละทุกคน ซึ่งระบุว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ค.ศ.2025 เป็นต้นไป การสนับสนุนด้านสาธารณสุขขององค์กร International Rescue Committee (IRC) เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยจะไม่มีอีกต่อไป ทั้งสตรีมีครรภ์ สตรีมีลูกเล็ก ผู้ป่วยอาการหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยวัณโรค ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้บริการได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยนอก (OPD) และ เจ้าหน้าที่แผนกผู้ป่วยใน (IPD) ปฏิบัติงานแล้ว และขอแจ้งให้ผู้ประกอบการขายยาในค่าย ห้ามขึ้นราคาค่ายาที่จำหน่าย ขอให้จำหน่ายตามราคาปกติที่เคยขาย สำหรับโรงพยาบาลของ IRC จะเปิดให้บริการได้อีกเมื่อไหร่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดที่แน่ชัด
ทั้งนี้การประกาศระงับความช่วยเหลือของ IRC ครั้งนี้ เนื่องจากถูกระงับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายหลังจากการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รอบสอง
ขณะที่สำนักข่าวกะเหรี่ยง Karen Information Centre (KIC) รายงานข่าวโดยอ้างคำสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัยนุโพ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่าบริการสาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัยที่ตั้งอยู่บนชายแดนไทย-พม่า ถูกระงับแล้วตั้งแต่เช้าวันนี้ (27 มกราคม) เนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้ระงับการให้เงินทุนแก่คณะกรรมการกู้ภัยระหว่างประเทศ (IRC) เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหมายความว่าบริการด้านสุขภาพภายใต้องค์กร IRC ก็ถูกระงับชั่วคราวเช่นกัน
การระงับบริการดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยทั้งหมดยกเว้นผู้ป่วยฉุกเฉินที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในค่ายผู้ลี้ภัย ต้องออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เช้านี้แล้ว และไม่มีการรับผู้ป่วยนอกอีกต่อไป ซึ่งปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมบางส่วนภายใต้ USAID บนชายแดนไทย-พม่าถูกระงับแล้ว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อระงับความช่วยเหลือระหว่างประเทศภายในไม่กี่วันหลังจากเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง
“ฉันยังไม่รู้แน่ชัดนัก เมื่อเช้าฉันไปโรงพยาบาล ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทุกแผนกภายใต้ IRC กล่าวว่าได้ทำงานของตนเสร็จสิ้นแล้ว ฉันยังไม่ได้รับเงินเดือนในเดือนนี้ และไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร” เจ้าหน้าที่จากค่ายผู้ลี้ภัยกล่าว
KIC รายงานอีกว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ บริการสาธารณสุขในค่ายผู้ลี้ภัยนุโพ ค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ก็ถูกระงับเช่นเดียวกัน ส่งผลให้คนไข้จำนวนมากที่ต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลไม่สามารถรับการรักษาได้
พะโด่ซอพเวเซ เลขาธิการคณะกรรมการผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง (KRC) กล่าวว่า ระบบการเก็บขยะของหน่วยงานอนามัยก็ถูกระงับเช่นกัน
“IRC บอกว่าต้องหยุดทำงานเพราะไม่มีเงินทุนอีกต่อไป ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยหากไม่มีโรงพยาบาลในค่ายผู้ลี้ภัย และยังไม่ทราบว่าจะปิดกี่วัน เราจะไปต่อได้อย่างไร คงต้องประชุมกันอีกครั้ง”พะโด่ซอพเวเซ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข่าวดังกล่าวมีการเผยแพร่ส่งต่อในหมู่ชาวกะเหรี่ยงเป็นวงกว้าง ในสื่อออนไลน์มีบัญชีจำนวนมากเข้ามาให้ความเห็น อาทิ “ฉันป่วยและต้องกลับออกมาจากโรงพยาบาล หมอพยาบาลร้องไห้ คนไข้ก็ร้องไห้ ฉันไม่สามารถได้รับออกซิเจนเพียงพอ ฉันควรทำอย่างไร? ค่ายฯ อยู่ไกลจากเมืองมาก มันแย่ยิ่งกว่าสิ่งใด พระเจ้า ช่วยฉันด้วย”
ปัจจุบันบริเวณชายแดนไทยมีพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ หรือเรียกสั้นๆว่าค่ายผู้ลี้ภัยอยู่ 9 ค่าย มีผู้ลี้ภัยอยู่ราว 9 หมื่นคน ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือด้านงบประมาณจากสหรัฐฯและประเทศตะวันตก ซึ่งค่ายเหล่านี้ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับผู้หนีภัยจากประเทศพม่าเมื่อกว่า 30 ปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/855951 สนองนโยบาย‘ทรัมป์’ ก.ต่างประเทศ‘สหรัฐฯ’สั่งระงับความช่วยเหลือชาติอื่น ‘ไทย’มีชื่อกระทบด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี