รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น....หลังจากทัวร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ก็ถึงคิวที่จะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในภารกิจการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้เวลา วันเดียวจะมีการตรวจราชการและประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ถึงสามจังหวัด เริ่มต้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าของสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2 โครงการรถไฟความเร็วสูงจาก สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ถึงชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งประชาชนเรียกร้องมานานนับ 10 ปี การแก้หนี้ ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม และจะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในจังหวัดปัตตานี เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายซอฟท์โลน เพื่อต่อลมหายใจให้กับกลุ่มนักธุรกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ สำคัญในกำหนดการ ที่เห็นมาก่อนหน้านี้ จะมีการเดินทางไปร่วมประชุม ที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2547 โรงเรียนธรรมวิทยา มีผู้บริหาร ที่ชื่อสะแปอิง บาซอ ที่เป็นเลขาธิการขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ซึ่งหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า เป็นแหล่งบ่มเพาะ นำเยาวชนไปเป็นสมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่ใหญ่ที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมประชุม ณ โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ย่อมที่จะมีนัยทางการเมืองในมิติ ของการดับไฟใต้อย่างแน่นอน...... และเชื่อว่าการเดินทางลงพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคง ต้องวางกำลังในการอารักขา เพื่อความปลอดภัยของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แบบไข่ในหิน เพราะก่อนถึงกำหนดการเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพียงสามวัน จักรยานยนต์บอมบ์ที่เป็นระเบิดลูกแรก ของปี 2568 ก็ตูมสนั่น ที่หน้าเคทีปาร์ค หรือศูนย์เรียนรู้ ที่ตั้งอยู่ข้างสภ.เมืองปัตตานี ซึ่งต้องถือว่าเป็นการวาระเบิดแสวงเครื่องกลางเมืองปัตตานี ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ทั้งที่เป็นตำรวจ และอาสารักษาดินแดน 9 นาย และมีคนต่างชาติที่เป็นชาวมาเลเซีย บาดเจ็บอีก 1 คน ทรัพย์สินของประชาชน ทั้งอาคารพาณิชย์ และรถยนต์-จักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายไปจำนวนหนึ่ง นี้คือการตอกย้ำให้เห็นชัดว่าไม่มีสถานที่ไหน ที่ปลอดภัยสำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เว้นแต่กองกำลังติดอาวุธ ของบีอาร์เอ็นจะทำหรือไม่ทำเท่านั้น…ปัญหาของ จ.สงขลา ที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนสามารถที่จะแก้ได้ นั้นก็คือผับเถื่อนโดยเฉพาะที่อ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีผับเถื่อนนับร้อยแห่งบางแห่งก็เปิดเกินเวลายันสว่างคาตา แถมเปิดให้เสพยาเสพติดกันอย่างเสรีภายในผับเถื่อน ย่านถนนซีกิมหยงเปิดใต้โรงแรมชื่อดัง และย่านใกล้รั้วมหาลัยมอ. ยังมีผับเถื่อนเปิดให้บริการ นักศึกษา เยาวชนให้เข้าไปมั่วสุมเสพยาได้งานนี้เห็นที่ต้องพึ่ง พล.ต.ต.เสกสันต์ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ช่วยไขลาน พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.อ.บัณฑูร เทพสุวรรณ ผกก.สภ.คอหงส์ ให้เร่งปราบ ผับเถื่อน หน่อย....ส่วนเรื่องบ่อนการพนันในพื้นที่ อ.นาทวี และอ.สะเดา ก็ยังลักลอบเปิดให้บริการล่วงหน้า ก่อนที่ อินเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์หรือมีบ่อนการพนันเสรี จะเปิดอย่างจริงจัง หากผ่านมติเห็นชอบของทุกๆ ฝ่าย...วันก่อนเห็นนายอำเภอสะเดา มีหนังสือเวียนถึงหลายหน่วยงาน ให้จับตาดูชายฉกรรจ์ 4 – 5 คนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ แต่งเครื่องแบบคล้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เรียกตรวจค้นรถ ตรวจร้านค้าต่างๆ สถานประกอบการฯ แล้วเรียกรับผลประโยชน์ งานนี้ เจ้าหน้าที่จริงทุกหน่วยควรเร่งตรวจสอบและดำเนินการเป็นการด่วน.....หลังเทศกาลปีใหม่ 2568 เพียงไม่กี่วัน ณ วันนี้เศรษฐกิจทุกหัวเมืองของประเทศไทย ตกอยู่ในสภาวะที่ซบเซา เสียงบ่นจากคนค้าขาย ดังกระหึ่มทั่วประเทศถึงความฝืดเคือง เพราะประชาชน ไม่มีเงินในการจับจ่ายใช้สอย รัฐจะแก้ไขอย่างไร ประชาชนถึงจะหายจน.......
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี