ตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมบัตรเครดิตผู้เสียหาย ผูกบัญชีใช้ซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ เกิดความเสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
วันนี้ (30 ม.ค.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป.พร้อมกำลัง เข้าจับุกม นายสืบสกุล อายุ 27 ปี และนายณัฎฐศรัณย์ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสดของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมของกลาง ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์แม็กบุ๊ก บัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ หนังสือเดินทางชื่อนายวรุตม์ และหนังสือเดินทางในชื่อนายสืบสกุล จับกุมนายสืบสกุล ได้ที่ซอยพหลโยธิน 67 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.และจับกุมนายณัฏฐศรัณย์ ที่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 1 แยก 5 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคม 2567 ผู้เสียหายได้ตรวจสอบพบว่ามีการทำธุรกรรมจากบัตรเครดิตของผู้เสียหาย 2 ใบ รวม 26 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบที่มา จากนั้นจึงแจ้งให้ทางธนาคารเจ้าของบัตรช่วยตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีคนร้ายปลอมแปลงข้อมูลสวมบัตรเครดิตของผู้เสียหาย นำไปใช้ ทางผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้
ต่อมาได้เข้าร้องทุกข์ขอให้ทางตำรวจ กก.3 บก.ป.ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายอีกทางหนึ่ง ซึ่งทาง พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป.ดำเนินการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี
จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มจากการที่คนร้ายนำข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายไปสวมรอย โทร.แจ้งพนักงานธนาคาร อ้างว่าต้องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัตรเครดิต จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้แล้ว ก็จะนำรหัส OTP ไปยืนยันเพื่อเอาข้อมูลจากบัตรเครดิต แล้วใช้ข้อมูลบัตรเครดิตดังกล่าวไปผูกกับบัญชีของกลุ่มคนร้ายในแอปพลิเคชั่นซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนจะสั่งซื้อสินค้า โดยจะเลือกเฉพาะสินค้าที่มีราคาแพง เช่น สร้อยคอทองคำ , คอมพิวเตอร์แม็กบุ๊ก โดยให้จัดส่งไปยังที่อยู่ของกลุ่มผู้ต้องหา มีการอำพรางหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อ เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตาม ะนอกจากนี้ในการสั่งสินค้า จะไม่นัดรับสินค้าที่บ้านพักอาศัยด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.จึงขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง รวม 3 คน ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มีอาชีพหน้าที่การงานเป็นหลักแหล่ง เชื่อว่ามีพฤติการณ์ในการหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน โดยมีเจตนาทุจริต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป.จึงเร่งสืบสวนติดตามตัว และได้ขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ดังกล่าว โดยคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสอง รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดย 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ให้การว่า เคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝ่ายเทคนิค ดูแลระบบหลังบ้านอยู่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา กระทั่งภายหลังการทำงานไม่ตอบโจทย์ รายได้ตก เจ้านายเห็นผลประโยชน์มากกว่าเพื่อนร่วมงาน จึงตัดสินใจลาออก ก่อนข้ามฝั่งกลับมาประเทศไทย แต่ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง จึงตัดสินใจนำข้อมูลที่ได้มาจากการทำงานที่ปอยเปต นำมาใช้ก่อเหตุสวมบัตรเครดิตผู้เสียหาย
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี