ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แจง 3 แนวทาง แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นขออนุญาตก่อสร้าง “ใช้เทคโนโลยีปรับปรุงกฎ จัดการคนทุจริตจริงจัง”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเข้าร่วมการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 4)ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมี นายสุรจิตต์พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานครเป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนาศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ในการประชุมวันนี้ นายพีรพล กนกวลัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตพญาไท ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร กรณีที่มีการจับกุมนายช่างโยธา โดยกล่าวว่า ปัญหาการขอใบอนุญาตก่อสร้างเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานแล้ว และเชื่อว่าฝ่ายบริหารเองก็คิดที่จะแก้ไข แต่ยังพบปัญหาการได้รับใบอนุญาตล่าช้า ตลอดจนการเรียกรับผลประโยชน์ จึงขอถามว่ามีแนวทางที่จะทำให้การขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นไปตามกฎและระเบียบที่มีอยู่หรือไม่ มีวิธีแก้ไขปัญหาเรื้อรังอย่างไร รวมถึงมีการควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามระเบียบหรือไม่
นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องการทุจริตความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร เป็นปัญหาที่กัดกร่อนความไว้วางใจของประชาชนเป็นอย่างมาก และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการแก้ไข ซึ่งมีปัจจัยหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การใช้วิจารณญาณ ข้อกฎหมายที่ล้าสมัยทำให้เกิดช่องโหว่ในการเรียกผลประโยชน์ มีการดึงเรื่องหรือขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งวิธีการดำเนินการมี 3 แนวทาง คือ
1.ใช้เทคโนโลยีมาดำเนินการให้มากขึ้น ลดการเจอหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ขออนุญาต ซึ่งจะทำให้ลดการใช้วิจารณาญาณและการเรียกรับผลประโยชน์ได้เช่นเดียวกับการยื่นภาษีออนไลน์ ปัจจุบันเราจึงเน้นเรื่องการขอใบอนุญาตออนไลน์ให้เยอะขึ้น รับเอกสารแบบดิจิทัลแทน มีการสร้างแรงจูงใจ คือยื่นออนไลน์จะดำเนินการได้เร็วขึ้น จาก 45 วัน เหลือเพียง15 วัน 2.กฎระเบียบที่ล้าสมัยและมีช่องโหว่ต้องปรับปรุงให้ทันสมัย ต้องมีการสังคายนากฎระเบียบเกี่ยวกับการควบคุมอาคารในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กทม. เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้จุดนี้เรียกรับผลประโยชน์ โดยเรื่องนี้ได้ให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยดูแลและพัฒนาปรับปรุงกฎหมายส่วนนี้อยู่และ 3.ต้องเอาจริงเอาจังกับการทุจริต หากรู้ว่ามีเรื่องอะไรก็ต้องรีบจัดการ กรณีที่มีการจับกุมเจ้าหน้าที่โยธาเขตพระโขนงเราเองก็ได้ประสานความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ป.ป.ท. ในการจับกุม เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเจ้าหน้าที่รายอื่น ซึ่งได้เน้นย้ำตลอดว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะมีผลกระทบไม่เพียงแค่ตัวเอง แต่รวมไปถึงครอบครัว โดยได้พยายามเตือนใจ และใช้ความจริงจังนี้เป็นตัวช่วยให้เกิดความเกรงกลัวเพื่อไม่ให้กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ สก. เขตพญาไท ยังได้กล่าวถึงเรื่องสืบเนื่องจากการประชุมสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีที่มีอาคารที่ก่อสร้างตรงข้ามกระทรวงการคลังได้ก่อสร้างกำแพงติดกับเสาไฟฟ้าทำให้ไม่เหลือพื้นที่ทางเท้า ประชาชนต้องลงเดินบนถนน ซึ่งรองผู้ว่าฯ วิศณุ ได้มีการชี้แจงไปแล้วว่าหมุดของที่ดินตามโฉนดนั้นอยู่บนถนนและสำนักงานเขตได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบแล้วพบว่าพื้นที่เดิมไม่มีทางเท้า โดยสำนักงานเขตได้ขอสงวนที่ดินบางส่วนไว้เพื่อทำเป็นทางเท้าแล้วโดยมีความกว้างประมาณ 29-60 เซนติเมตร โดยถามว่าทางฝ่ายบริหารจะยังยืนยันหรือไม่ว่าการก่อสร้างดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายในเรื่องของระยะร่น ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้จะให้ผู้รับผิดชอบลงไปตรวจสอบอีกครั้งโดยลงพื้นที่ร่วมกับทาง สก. ด้วย เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายและเกิดความชัดเจนมากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี