เขตควบคุมมลพิษ
กทม.ชงรบ.ประกาศรับมือค่าฝุ่นพิษพุ่ง
รับมือค่าฝุ่นพิษพุ่ง
นายกฯย้ำใส่แมสก์
กทม.ค่าฝุ่นเริ่มกลับมาส้ม เกินมาตรฐาน 26 พื้นที่ เริ่มกระทบสุขภาพ ด้านผู้ว่าฯกทม.เดินหน้าขยายผลมาตรการเขตมลพิษต่ำเสนอรัฐบาลประกาศให้กรุงเทพฯเป็น “เขตควบคุมมลพิษ” แก้ PM2.5 ด้านปภ.ช.ถกติดตามคืบหน้าแก้ฝุ่นคาดโทษจนท. ทุกจังหวัดปล่อยเผาไม่แก้ไขเชิงรุกเอาผิดแน่ ส่วนนายกฯบอกไม่มีมาตรการเพิ่ม แค่ให้เข้มมาตรการเดิม ย้ำปชช.ใส่หน้ากากลดผลกระทบฝุ่นระลอกใหม่สัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 30มกราคม ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5ไมครอน หรือPM 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครประจำวันว่า เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นPM2.5 ได้ 26-53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 26 พื้นที่ คือ
1.เขตลาดกระบัง วัดได้มากที่สุด 53.0 มคก./ลบ.ม.2.เขตคลองสามวา มีค่า 47.8 มคก./ลบ.ม.3.เขตหนองจอก 45.4 มคก./ลบ.ม.4.เขตพระโขนง 44.1 มคก./ลบ.ม.5.เขตบางขุนเทียน 43.5 มคก./ลบ.ม.6.เขตคันนายาว 7.เขตภาษีเจริญ 8.เขตประเวศ 9.เขตมีนบุรี 10.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง11.เขตบางกอกน้อย 12.เขตหนองแขม 13.เขตหลักสี่ 14.เขตบางนา 15.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง 16.เขตทวีวัฒนา 17.เขตธนบุรี 18.สวนหนองจอก เขตหนองจอก 19.เขตวังทองหลาง 20.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง 21.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 22.เขตตลิ่งชัน 23.เขตคลองเตย 24.เขตลาดพร้าว 25.เขตบางเขน 26.เขตสวนหลวง พร้อมกันนี้มีข้อแนะนำสำหรับประชาชนให้ใช้หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ฝุ่นวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศรายงาน ภาพรวม PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ เชียงราย น่าน พะเยา เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร สิงห์บุรี สระบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง ตราด หนองคาย เลย ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และยโสธร
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมปภ.ช.วันนี้รายงานว่าตั้งแต่วันนี้ (30 มกราคม)ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ประเทศไทยจะเผชิญกับอากาศปิดอีกระลอกส่งผลให้ค่าฝุ่นในหลายพื้นที่ของประเทศอาจเพิ่มสูงขึ้นที่ประชุม ปภ.ช. สั่งทุกหน่วยงานแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือสั่งงดเผาโดยไม่มีข้อยกเว้น และยกระดับมาตรการต่างๆ แต่ระยะเร่งด่วน ในพื้นที่ที่ค่าฝุ่นยังเกินมาตรฐาน ให้ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้มากที่สุด โดยสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขจัดเจ้าหน้าที่พร้อมทีมแพทย์เข้าดูแลประชาชน โดยเฉพาะ 5 กลุ่มเสี่ยงมียอดรวมประมาณ 178,000 ราย โดยกระทรวงสาธารณสุข จัดทีมพิเศษฉุกเฉินสุขภาพ ระดับจังหวัด 76 ทีม และระดับอำเภอ 878 ทีม ลงพบประชาชนและเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว
โฆษกรัฐบาลแถลงต่อว่า ที่ประชุม ปภ.ช. กำชับให้ทุกส่วนราชการที่บังคับใช้กฎหมายดำเนินการจับกุมตามนโยบาย “ป้องกัน ปราบปราม สนับสนุน ลดฝุ่น” ของ ปภ.ช. อย่างเคร่งครัดโดยให้รายงานต่อที่ประชุม บก.ปภ.ช. ทุกวัน หากส่วนราชการใดที่ยังละเลยไม่ดำเนินการ “ปภ.ช.” จะมีข้อสั่งการและรายงานต่อ ผู้บัญชาการ บก.ปภ.ช. พิจารณาตามการบังคับบัญชาทันที
ขณะที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสถานการณ์ฝุ่นPM2.5 มีการกำชับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ว่า เป็นมาตรการเดิม แต่ให้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ค่าปริมาณฝุ่นน้อยลง แต่คาดว่าสัปดาห์หน้า น่าจะแรงขึ้นอีก ก็ขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
ในส่วนกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความสำเร็จในการนำมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone: LEZ) มาใช้ในกรุงเทพฯว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่เมืองชั้นใน จำกัดโซนการวิ่งรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปที่ไม่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว ห้ามเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ซึ่งรถมาลงทะเบียนบัญชีสีเขียวกว่า 38,000 คัน สำหรับรถที่ฝ่าฝืนเข้าพื้นที่ประกาศใช้มาตรการช่วงค่าฝุ่น PM2.5 สูงให้เทศกิจแต่ละเขตพื้นที่ดำเนินการแจ้งความต่อไปการเริ่มต้นครั้งนี้ ทำให้เราได้เห็นปัญหาเห็นประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยี ไม่ต้องตั้งด่าน ไม่ต้องใช้คน เชื่อว่าในแผนมาตรการฝุ่นฉบับใหม่ของประเทศที่กำลังร่างน่าจะนำเรื่อง LEZ ไปเป็นโมเดล
นาย ชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับการขยายผลต่อเนื่อง จะรวบรวมเป็นประเด็นนำเสนอรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการฝุ่น 11 ข้อ ของกรุงเทพมหานคร ที่คิดว่าปรับปรุงได้และขอให้กทม.มีอำนาจ รวมถึงเรื่องสำคัญคือ การประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษ จะทำให้เรามีอำนาจมากขึ้น เช่น สามารถใช้เงินกองทุนส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพิ่มระบบการทำงานในกรุงเทพฯ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นPM 2.5 ว่า สพฐ.กำชับมาตรการป้องกันไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาล่วงหน้าแล้ว หากพื้นที่ใดเป็นพื้นที่สีส้มหรือสีแดงที่อยู่ในขั้นอันตรายให้ผู้อำนวยการ (ผอ.)ปิดโรงเรียนได้ทันที และหารูปแบบจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นเข้ามาชดเชย รวมถึงหามาตรการดูแลช่วยเหลือเด็กและครู หากเกิดอาการเจ็บป่วยจากฝุ่น pm 2.5 ด้วย ทั้งนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯมีโรงเรียนที่ปิดเรียน 57 โรงเรียน และในอีกหลายจังหวัด แต่โชคดีช่วงสองวันที่ผ่านมาสภาพอากาศเปิด สถานการณ์ฝุ่นโดยรวมดีขึ้น แต่หลังจากนี้จะประชุมเตรียมความพร้อมจัดการเรียนการสอน หากค่าฝุ่น pm 2.5 สูงมากกว่าปกติ เชื่อว่า รัฐบาลจะมีมาตรการเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติม เช่นการ Work from home ซึ่งสพฐ. เตรียมแผนรับมือเรื่องนี้ และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี