คุกตลอดชีวิต‘กำนันนก’
คดียิงสารวัตรแบงก์
ในงานเลี้ยงวันเกิด
ฝากหลานทำงานไม่ได้
ศาลอาญาสั่งจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก”สั่งยิงสารวัตรแบงก์ ในงานเลี้ยงวันเกิด จนเสียชีวิต แถมกระสุนถูก พ.ต.ท.อีกรายบาดเจ็บสาหัส เหตุแค้นฝากหลานชายโยกย้ายไม่สำเร็จ แถมเสียหน้าดวดเหล้าแพ้
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีที่อัยการคดีอาญา7 บิดา มารดา ภรรยา บุตรสาวของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สว.แบงก์ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี เป็นโจทก์ร่วม พร้อมเรียกค่าเสียหาย55ล้านบาทเศษ และ 24 ล้านบาทเศษตามลำดับ ยื่นฟ้องนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก อายุ 37 ปี อดีตกำนันในพื้นที่ จ.นครปฐม เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,ใช้ หรือจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 68, 80, 84และ288
อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 เวลากลางคืนจำเลยได้ใช้จ้างวานให้นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ท่าผา คนสนิท (ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญในเวลาต่อมา)ใช้อาวุธปืน ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงก์ หรือสารวัตรศิวสว.กก.2 บก.ทล.ในงานเลี้ยงวันเกิดภายในบ้านพักของจำเลย ที่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และกระสุนยังถูกพ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้สั่งยิงผู้ตาย โดยอัยการโจทก์ขอให้นับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย โดยการฟังคำพิพากษาในวันเดียวกันนี้มีมารดา ภรรยา บุตรสาวและญาติสนิทของกำนันนกเดินทางมาเป็นกำลังใจ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 18.00 น.จำเลยได้จัดงานเลี้ยงวันเกิด ที่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม โดยมีการเชิญนายตำรวจและข้าราชการตำรวจชั้นประทวนมาร่วมงานเลี้ยง โดยจัดวางโต๊ะ 2 ฝั่ง ซึ่งฝั่งขวาเป็นโต๊ะ VIP มี พ.ต.ท.ศิวกรผู้เสียชีวิตนั่งร่วมโต๊ะโดยจำเลยได้นั่งหัวโต๊ะฝั่ง VIP และฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะยาวที่มีโต๊ะตั้งอยู่ 5 ตัว
ก่อนเกิดเหตุจำเลยได้ขอให้ผู้ตายช่วยย้าย จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา หรือจ่าอาร์ต ซึ่งเป็นหลานชายของจำเลย ให้ไปเป็นสายตรวจจักรยานยนต์ แต่ผู้เสียชีวิตบอกว่าขอให้รอดูช่วงเดือนตุลาคมนี้ก่อน เพราะเป็นช่วงที่มีการเกษียณอายุราชการของตำรวจในหน่วย ทำให้จำเลยไม่พอใจ และมีการท้าดวลดื่มสุรากันโดยในการดื่มสุรานั้นมีการใช้ผ้าผูกแขนผู้ตายกับจำเลยไว้ในทำนองว่า ไม่ให้ลุกหนี โดยฝ่ายจำเลยดื่มแพ้ ทางผู้ตายพูดในทำนองว่า ดื่มหมดก่อนทุกครั้งทำให้จำเลยรู้สึกเสียหน้า ท่าทีนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นตบโต๊ะด้วยอาการฉุนเฉียวจากนั้นได้ลุกออกจากโต๊ะ VIP และเดินกลับไปนั่งที่หัวโต๊ะของฝั่งโต๊ะยาว โดย จ.ส.ต.พิสิฐและผู้เสียชีวิตได้เดินตามมาขอโทษจ.ส.ต.พิสิฐ ได้นั่งยองๆ กอดที่เอวของจำเลย ขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ข้างๆ และพูดทำนองว่า ดื่มกันสนุกๆ เฉยๆ ครับเฮีย ฝ่ายจำเลยบอกกับทาง จ.ส.ต.พิสิฐ ว่าให้รีบเดินทางกลับไปเดี๋ยวเลือดเปื้อนหน้า จากนั้น จ.ส.ต.พิสิฐ ได้เดินทางกลับ ขณะที่ผู้เสียชีวิตกลับไปนั่งที่โต๊ะ VIP ในตำแหน่งหัวโต๊ะที่จำเลยเคยนั่งระหว่างนั้นนายธนัญชัย หรือหน่อง ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทเห็นเหตุการณ์ว่าจำเลยไม่พอใจผู้ตาย รวมถึงได้ยินจำเลยถามหาอาวุธปืนและได้ยินจำเลยพูดว่า แบบนี้เอาไว้ไม่ได้ ซึ่งคนปกติทั่วไปเข้าใจว่าหมายถึงต้องฆ่าให้ตาย
นายธนัญชัยจึงเดินไปที่โต๊ะ VIP หันมาถามจำเลยว่า “ลูกพี่เอาไง” จำเลยไม่ตอบแต่พยักหน้าแทนนายธนัญชัยจึงใช้อาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม.ยิงผู้ตายหลายนัดกระสุนปืนไปถูก พ.ต.ท.วศิน โจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งสองถูกนำตัวส่งรพ.นครปฐมโดยผู้ตายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ศาลเห็นว่าพยานโจทก์หลายปากซึ่งตำรวจหลายนายเป็นประจักษ์พยานเบิกความเป็นลำดับขั้นตอน สอดคล้องต้องกัน เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความไปตามความจริงที่ประสบพบเจอมา อีกทั้งพยานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ล้วนมีน้ำหนักเชื่อถือให้รับฟังว่า จำเลยเป็นผู้ใช้ให้นายธนัญชัยไปก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิต จากสาเหตุที่ไม่พอใจเมื่อขอให้ย้าย จ.ส.ต.พิสิฐมาเป็นสายตรวจจักรยานยนต์ไม่ได้ อีกทั้งจำเลยรู้สึกอับอายเสียหน้าที่ดื่มสุราแพ้ ถึงขั้นลุกขึ้นตบโต๊ะอย่างแรงและมีการพูดว่า “อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้” เมื่อผู้ตายมาขอโทษอารมณ์ยิ่งคุกรุ่นถึงขั้นถามหาอาวุธปืนประสงค์จะเอาชีวิตผู้ตาย แม้มีคนเตือนสติว่า จำเลยมีอาการมึนเมามากให้ไปนอนพัก โดยนายธนัญชัยซึ่งนั่งอยู่ในโต๊ะยาว แม้จำเลยไม่ได้พูดแต่นายธนัญชัยเป็นลูกน้องคนสนิท
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายธนัญชัย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562ถึงเดือนสิงหาคม 2566 แสดงให้เห็นถึงความเคารพรักที่นายธนัญชัยมีต่อจำเลย วันเกิดเหตุนายธนัญชัย แสดงตัวเอาใจจำเลย ทั้งที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใช้ให้นายธนัญชัยฆ่าผู้ตายสมเจตนาของจำเลยและทำให้พ.ต.ท.วศินบาดเจ็บ
พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมาย มาตรา 288 ,60 ,80และ 84 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกระทำผิดร้ายแรงอย่างอุกอาจ อย่างไรก็ตามระหว่างการพิจารณา จำเลยได้บรรเทาผลร้ายในคดีด้วยการชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมทั้ง 5 จนเป็นที่พอใจยอมถอนคำร้องเรียกค่าเสียหาย กรณีมีเหตุอันควรปรานีเห็นสมควรลงโทษจำเลยเป็นจำคุกตลอดชีวิต ริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนของกลาง และนับโทษจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท. 206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่สั่งจำคุก 12ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี