ผบช.ภาค 7 สั่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการขนแรงงานเถื่อนพม่าซุกรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อเข้าไทยดำเนินคดี พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจเส้นทางการเงินผู้ต้องหาหลังพบลอบนำเงินออกนอกประเทศ 2.9 ล้านบาท
กรณี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์และ ผบ.ร.29 พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์และรอง ผบ.ร.29 พ.ต.อ.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รรท.ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า), พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน โดยเฉพาะตามทางหลวงสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี
โดยช่วงเช้าวันนี้ 31 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ตัวแม่หมายเลขทะเบียนกาญจนบุรี ตัวลูกทะเบียนนครปฐม พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอยู่ภายในพ่วงตัวแม่และพ่วงตัวลูก จำนวน 169 ราย เป็นชาย 102 ราย หญิง 67 ราย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายชินกร หรือนนท์ อายุ 30 ปี ขาว ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และนายเข็ม ชาว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เอาไว้ ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมรถพ่วงของกลางไปที่ สภ.ทองผาภูมิ ช่วงการจับกุมเป็นจังหวะที่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิพอดี จึงเดินทางไปสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตนเอง
โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เปิดเผยภายหลังว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ด้วยการใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จึงสนธิกำลังกันออกหาข่าว
ขณะที่ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ พบรถบรรทุก 10 ล้อลากพ่วงมาด้วย ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าตัว อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นผลรากฎพบจำนวนแรงงานข้างต้นซุกซ่อนตัวอยู่ภายในรถพ่วงทั้งตัวแม่และตัวลูก โดยมีแสลนปิดบังสายตาเจ้าหน้าที่เอาไว้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานในการขยายผลจับกุมตัวกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ขอเรียนเพิ่มเติมว่าหลายวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดในหลายคดี ซึ่งคดีที่น่าสนใจคือคดีการจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังลักลอบนำเงินสดออกนอกประเทศมากถึง จำนวน 2.9 ล้านบาท รวมถึงคดีการจับกุมหญิงสาวชาวเมียนมาได้พร้อมอุปกรณ์สื่อสารประเภทโทรศัพท์มือถือจำ รวมทั้งเครื่องนับเงินเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 ที่ผ่านมาผมได้เดินทางมามาที่ สภ.ทองผาภูมิ ในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการขยายผลว่าเส้นทางการเงินเกี่ยวเนื่องกับขบวนการกระทำผิดกฎหมายและการฟอกเงินในประการใดบ้าง
"เบื้องต้นจากการที่เรายึดเงินได้จำนวน 2.9 ล้านบาทที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรีนั้นถือว่าเป็นเงินผ่านบัญชีของผู้ต้องหาที่สูงมาก ขณะนี้ผมได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาและจะใช้ พ.ร.บ.ในการยึดทรัพย์ ด้วยการนำเจ้าหน้าที่ ตร.ภาค 7 รวมถึงเจ้าหน้าที่ ปปง.เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย"
ด้านนายชินกร หรือ นนท์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมตัว เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาตนได้ขนแรงงานมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยการใช้รถพ่วง 22 ล้อคันเดียวกัน โดจะขนแรงงานในช่วงเวลาระหว่าง 01.00-02.00 น.แต่ครั้งนี้ตนได้เลือกขนในช่วงเช้า เนื่องจากมีทีมงานคอยสังเกตการณ์ตามด่านต่างๆให้ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ผลัดเวรยาม ก็จะฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวขับรถผ่านด่าน โดนตนกับเพื่อนที่มาด้วยกันจะได้ค่าจ้างคนละ 6,000 บาท โดยแรงงานทั้งหมดตนจะนำไปส่งในพื้นที่เขต อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีคนมารับช่วงต่อแล้วนำกลุ่มแรงงานไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
ส่วนนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า จากการสอบถามนายชินกร ผู้ต้องหาที่นำพาคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเบื้องต้นให้การว่าตนและนายเข็ม รับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ มาจากอำเภอสังขะบุรี ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 323 สังขละบุรี-กาญจนบุรี มุ่งหน้าตรงไปอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ปลายทางคือบริเวณอำเภอเมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีรถมารับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ไปส่งต่อยังจังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง ผู้ต้องหาทั้งสองได้รับค่าจ้างในการนำไปส่งคนละ 6,000 บาท
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนิคดีในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน "ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม" ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 169 คน ถูกดำเนิคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี