อธิบดีกรมราชทัณฑ์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันพลิกแผ่นดิน พื้นทราย ป่าไผ่ในพื้นที่แห้งแล้ง ทำให้เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงกลายเป็นเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร แบบครบวงจร “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างการยอมรับ และสร้างความเชื่อมั่นของผู้ต้องขังต่อสังคม ตามนโยบายกระทรวงยุติธรรม และนโยบายกรมราชทัณฑ์ รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ สร้างคนดี คืนสังคม
วันที่ 31 มกราคม 2568 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง และเป็นประธานเปิดเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร พร้อมมอบนโยบายให้เรือนจำที่มีความพร้อมทางด้านกายภาพให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชิงคู่ขนาน มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรือนจำ และการฝึกวิชาชีพให้กับผู้ที่ใกล้พ้นโทษ ที่เข้าเกณฑ์คัดย้ายไปอยู่ประจำที่เรือนจำชั่วคราว ให้ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ซึ่งเป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขัง ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ “8 มิติ สร้างคนดี คืนสังคม” โดยมีนายจิรวุฒิ ปุญญาสวัสดิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้บัญชาการเรือนจำในเขต 4 และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายขับเคลื่อนโครงการเรือนจำท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกิดการท่องเที่ยวที่สนับสนุนการบริการ สินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มาจากผลงานการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยม ขอชื่นชมเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำเนินโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ใช้หลักเกษตรทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน
พร้อมจัดฝึกอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้แก่ผู้ต้องขัง โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐาน ความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก รวมทั้งเป็นการสร้างความมั่นคง ทางอาหาร และอาชีพ นำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ ทำให้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี นำไปสู่ชุมชนที่มั่นคงแข็งแรง และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วย “ศาสตร์พระราชา”
ด้านนายจิรวุฒิ ปุญญาสวัสดิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากนโยบายของกรมราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้พัฒนาพื้นที่ของเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง เป็นเรือนจำท่องเที่ยว ตามโครงการเรือนจำท่องเที่ยว เชิงเกษตร โดยการพลิกแผ่นดิน พื้นทราย ป่าไผ่ในพื้นที่แห้งแล้ง สามร้อยไร่ ด้วยสองมือและหัวใจของผู้กระทำผิดต่อสังคม สู่ศาสตร์ของ พระราชา ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นการ เสริมสร้างศักยภาพผู้ต้องขังเพื่อการมีงานทำ และสงเคราะห์ ให้มีอาชีพภายหลังพ้นโทษและได้พัฒนาเป็นพื้นที่สำหรับเยี่ยมชม การทำ โคก หนอง นา โมเดล การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นศูนย์ศึกษาดูงานของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปด้วย รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว (แลนด์มาร์ค) ของจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาพื้นที่ของ สถานที่ตรวจพิสูจน์ฯเดิม ให้เป็นศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมด้านอาชีพต่างๆ เช่น ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม, ศูนย์ CARE (ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ) เรือนจำกีฬา, เรือนจำหัตถกรรม เป็นต้น เพื่อให้ผู้ต้องขังได้เตรียมความพร้อมสู่สังคมเรียนรู้ในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงแล้ว นายสหการณ์ พร้อมคณะยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการฝึกอาชีพของผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษภายนอกเรือนจำ “ร้านหับเผย ผลิตผลคนดี” รวม 3 แห่งตั้งอยู่ภายในจตุรมุขศาลากลาง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจ้างแรงงานผู้พ้นโทษเข้าทำงานตามโครงการคืนคนดี สู่สังคม, ศูนย์ส่งเสริมและฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังหญิง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถนนธนะผล มีบริการหลากหลายครบวงจร เช่น บริการล้างรถ (Car care) บริการนวดแผนไทย, จำหน่ายขนม เครื่องดื่ม และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ และแห่งที่ 3 สาขา โรงพยาบาล
จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยม บริเวณด้านหน้าเรือนจำ ประกอบด้วยศูนย์ส่งเสริมและฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังชายและหญิง ทั้งร้านจำหน่ายกาแฟ, ร้านเสริมสวย (กาฬสินธุ์บิวตี้), ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม, ร้านคาร์แคร์ จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมภายในเรือนจำรับชมการสวนสนามของผู้ต้องขังภายในเรือนจำให้กำลังใจผู้ต้องขัง พร้อมกับประชุมผู้บัญชาการเรือนจำ ในเขต 4 เพื่อมอบนโยบายการทำงานถือปฏิบัติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี