ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมสาวโมเดลลิ่ง หลอกหญิงไทยไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน สุดท้ายพาไปขายซ่อง แถมขู่หากใครไม่ทำจะจับขังเดี่ยว
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รรท.ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ,พ.ต.ท.พระเนียง พรมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิริยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.ร่วมจับกุม นางสาวพิมพ์พิไลฯ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 573/2568 ลงวันที่ 28 มกราคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์มิชอบ จากการบังคับค้าประเวณี”
พฤติการณ์ ด้วยเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2566 ทางการไทยได้รับรายงานจากสถานเอกอัศรราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ว่าได้ให้ความช่วยเหลือคนไทย จำนวน 340 คน ออกจากพื้นที่การสู้รบในเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมาเดินทางกลับประเทศไทย โดยเมื่อถึงประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้คัดกรองคนไทยกลุ่มดังกล่าวที่อาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ(National Referral Mechanism- NRM) โดยพบว่ามีหญิงไทยถูกกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันหลอกไปทำงานแล้วบังคับให้ค้าประเวณี พบมีข้อบ่งขี้เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ภายหลังจากการสอบสวนพบว่าหญิงสาวไทยที่ตกเป็นเหยื่อ ได้หางานผ่าน TikTok โดยพบประกาศรับสมัครงานจาก น.ส.พิมพ์พิไลฯ ว่ารับสมัครสาวสวยไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิงที่กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา รายได้ดี เมื่อมีผู้เสียหายสนใจ น.ส.พิมพ์พิไล ได้พาเหยื่อไปที่ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา โดยพาไปพบกับชายชาวจีนที่อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง จากนั้นชายชาวจีนจะพาไปที่ตึกร้างนอกเมือง ซึ่งมีทหารคอยควบคุม แล้วบังคับให้ผู้เสียหายขายบริการทางเพศกับให้ลูกค้าชายที่เข้ามาใช้บริการ เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมขายบริการทางเพศก็จะถูกแยกขังเดี่ยว และให้อดอาหาร หากต้องการให้ปล่อยตัวจะต้องนำเงินมาไถ่ตัว 8 หมื่นหยวน หรือประมาณ 4 แสนบาท หลังจากนั้นยังมีการขายเหยื่อต่อไปอีก 2 ทอด จนเหยื่อได้มาทำงานในร้านคาราโอเกะในเมืองเล้าก่าย ประเทศเมียนมาร์ และได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาลไทยให้เดินทางกลับประเทศไทย
กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยสืบสวนจนทราบข้อมูลกลุ่มผู้ต้องหาจนต่อมาศาลอาญาได้มีหมายจับ นางสาวพิมพ์พิไลฯ กับผู้ร่วมขบวนการชาวจีน รวม 4 คน ในข้อหา “ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์มิชอบ จากการบังคับค้าประเวณี” และสามารถจับกุม น.ส.พิมพ์พิไลฯ ได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี