31 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงนามในคำสั่งเมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2568 พร้อมประกาศบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ได้แก่ 1. พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้ แก่วัตถุใด ๆ แม้เป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษ โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท
ต่อมานายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ได้ตั้งกองทุนขึ้นมา จำนวน 50,000 บาท เพื่อสนับสนุนจังหวัดกาญจนบุรี นำไปเป็นเงินรางวัลนำจับ ให้กับพลเมืองดีผู้แจ้งเบาะแสจนไปสู่การจับกุมดำเนินคดี ในอัตราที่เหมาะสม
โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอธิสรรค์ อินตรา ผวจ.กาญจนบุรี รวมถึงนายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบเงินรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเบาะแสการลักลอบเผาในเขตพื้นที่หมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มาแล้ว จำนวน 3,000 บาท
จากนั้นวันที่ 29 ม.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบเงินรางวัลให้กับพลเมืองดีผู้แจ้งเบาะแสว่ามีการเผาพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีอีก 1 ราย เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 27 ม.ค.68
ล่าสุดวันนี้ 31 ม.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบเงินรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเบาะแสเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งถือว่าเป็นรายที่ 3 ของจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับมูลเหตุนั้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ด้วยการเช่าแพพักไปจอดเกาะกลางอ่างเก็บน้ำ ท้องที่ หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ต่อมานักท่องเที่ยวเป็นชายชาว จ.สมุทรปราการ ได้จุดพลุขึ้นบนท้องฟ้าเป็นเหตุทำให้ประกายไฟลุกลามไหม้แพ จนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ หากพบผู้กระทำความผิดลักลอบเผาป่า รวมถึงพื้นที่เกษตรในที่โล่งแจ้ง และอื่นๆ พลเมืองดีสามารถแจ้งเบาะแสได้ทุกที่ว่าการอำเภอทั้ง 13 อำเภอ หรือโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน 1784 หากนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลทันที โดยเจ้าหน้าที่จะปิดรายชื่อ และที่อยู่เอาไว้เป็นความลับ
.025
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี