"โจ้ มหาเฮง"เซียนพระชื่อดังฮื่ม!พร้อมเปิดชื่อ หลักฐานมัดคุณนายผู้ว่าฯหากเบี้ยวคืนเงินกว่า 10 ล้านบาทหลังทำสัญญาซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลกว่า 16 ล้านบาทแล้วผิดนัด ยันแจ้งความข้อหาฉ้อโกงทรัพย์กับคุณนายผู้ว่าฯที่ "สภ.เสลภูมิ" จริง ขณะที่ "รองผู้การร้อยเอ็ด" ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายอัครเดช จันทแสง เจ้าของฉายา "โจ้ มหาเฮง" เซียนพระชื่อดังเมืองร้อยเอ็ดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ดำเนินคดีกับคุณนายผู้ว่าราชการจังหวัดในภาพคอีสานจังหวัดหนึ่งในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เป็นการโกงเงินค่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเงินคงค้างกว่า 10 ล้านบาทเศษนั้น ภายหลังจากมีการนำเสนอกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมากเพราะต้องการให้เปิดชื่อคุณนายผู้ว่าฯคนดังกล่าวว่าเป็นใคร
วันนี้ (1 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปนายอัครเดช จันทแสง หรือ โจ้ มหาเฮง เพื่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดย โจ้ มหาเฮง บอกว่า ตนต้องการเพียงที่จะขอรับเงินส่วนที่เหลือคืนทั้งหมดเนื่องจากตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ที่ได้ผิดนัดในการนำสลากมาส่งตามข้อตกลง การเข้าแจ้งความที่ สภ.เสลภูมิ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ก็เนื่องจากเกรงว่าการผิดนัดชำระหนี้ที่เหลือและการเรียกเงินคืนทั้งหมดนั้นเป็นคดีฉ้อโกงทรัพย์จะขาดอายุความ ยอมรับว่าที่ผ่านมาก่อนที่จะแจ้งความก็มีการต่อรองกันไปแล้วมากกว่า 20 ครั้ง จนเกรงว่าจะไม่ได้เงินคืนเพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นการระดมเงินจากกลุ่มเพื่อนๆ รวม 16,200,000 บาทไม่ใช่เงินเสี่ยโจ้คนเดียว แต่ก็มีทีมงานที่หวังว่าจะนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมากระจายจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ก็เท่านั้น อีกทั้งทีมงานที่ร่วมลงทุนก็จำเป็นที่จะต้องใช้เงิน หากไม่ได้สลากก็ควรที่จะนำเงินมาคืนทั้งหมดให้เร็วที่สุด ตนก็พร้อมที่จะให้โอกาส
แต่หากไม่ได้ก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำในส่วนที่สื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศต้องการทราบว่าเป็นใครนั้นในขณะนี้ก็ขอปิดเอาไว้ก่อน หากไม่ได้เงินก็จะพิจารณาเปิดเผยทั้งหมดว่าคุณนายผู้ว่าฯคนนี้คือใคร มีภาพถ่ายตอนรับเงินและสัญญาที่ตกลงทำกันไว้แล้วทั้งรายละเอียดไทม์ไลน์ที่ผ่านมา มีหลักฐานแชทไลน์ทั้งหมด หากไม่ได้ก็คงจะต้องตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2567 โจ้ มหาเฮง ทำสัญญาซื้อสลากฯกันไว้กับคุณนายผู้ว่าฯคนหนึ่งเป็นยอดเงินรวม 16,200,000 บาท ตามข้อตกลงจะต้องส่งสลากฯรวมทั้งสิ้น 2,000 เล่มให้ต่องวด มีการนัดรับสลากฯทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 ของเดือน หลังชำระเงินทั้งหมดไปแล้ว งวดแรกนัดส่งมอบกันในวันที่ 5 ตุลาคม 2567 แต่ปรากฏว่าไม่มีสลากฯมาส่งตามนัด จากนั้นก็นัดอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 แต่คุณนายผู้ว่าฯ นำสลากฯมาส่งให้จำนวน 600 เล่มภายหลังจากวันที่นัด 7 วัน ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาล คงค้างอยู่อีก 1,400 เล่ม และเสี่ยโจ้ มหาเฮง ก็ไม่เคยได้รับสลากฯอีกเลย จนมีการเรียกร้องเงินคืนทั้งหมด
จนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 คุณนายผู้ว่าฯได้โอนเงินสดคืนบางส่วน และได้โอนคืนมาให้อีกจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 500,000 บาท เป็นเงิน 1,500,000 บาทที่ยังค้างกันอยู่กว่า 10 ล้านบาท เสี่ยโจ้ มหาเฮง จึงได้นำปัญหานี้ไปปรึกษาผู้ใหญ่เพื่อหาทางออก ยืนยันต้องการเงินส่วนที่เหลือคืน แต่เนื่องจากการเจราจรหลายๆ ครั้ง มีการบ่ายเบี่ยงจึงตัดสินใจไปแจ้งความดำเนินคดีกับคุณนายผู้ว่าฯคนนี้ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ กับพนักงานสอบสวน สภ.เสลภูมิ ไว้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 10.31 น. ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด รรท.ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ถึงกรณ๊ดังกล่าว พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานกรณีดังกล่าวจาก ผกก.สภ.เสลภูมิแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานทั้งผู้เสียหายและผู้ที่ถูกกล่าวหาก่อนประมาณ 30 วัน ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี