กลุ่มปลูกผักอินทรีย์ ตำบลห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ หนึ่งในความสำเร็จของชาวนาอำนาจเจริญ เมื่อเสร็จสิ้นฤดูทำนาปลูกข้าวแล้ว จะรวมกลุ่มกัน ปลูกผักปลอดสารพิษ มาเป็นเวลากว่า 30 ปี จำหน่ายให้ผู้สนใจ ในการบริโภคผักเพื่อสุขภาพ เงินกำไร เก็บไว้เป็นทุนในการทำนาปลูกข้าวในปีถัดไป
นางจันทรา บุญงาม ชาวนาบ้านหนองตาใกล้ ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าว่า ชาวบ้านหนองตาใกล้ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาปลูกข้าวพอหมดฤดูทำนาจะมองหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ ด้วยการปลูกพืชผัก เพื่อหมุนเวียนดิน ผักที่ปลูก ได้แก่ ต้นหอมแดง หอมขาวผักกาด ฟักทอง ผักชี คะน้า เป็นต้น ซึ่งพื้นดินที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก เหมาะในการปลูกพืชผักต่างๆ หลายคนหันปลูกพืชผักควบคู่กับทำนา เพราะขายผักกำไรดีและปีนี้ ขายข้าวได้กำไรดี ประกอบกับ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาส่งเสริมสนับสนุนและแนะนำให้ความรู้เพิ่มเติม ส่งผลให้การปลูกผัก ผลผลิตออกมาสวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากผักที่ไปจากที่นี่การันตีได้เลยว่าปลอดสารพิษ ซึ่งผู้บริโภคให้ความเชื่อถือและมั่นใจมาก
ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มปลูกผักอินทรีย์ขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่150 คน โดยการปลูกพืชผักหลายชนิด เช่น ต้นหอมขาว หอมแดง ผักกาด กะหล่ำปลี ผักชี ฟักทองเป็นต้น ซึ่งสมาชิกทุกคนจะปลูกผักปลอดสารพิษด้วยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ส่วนระบบน้ำไม่ขาดแคลน เพราะใช้น้ำบาดาลด้วยการใช้ปั๊มสูบขึ้นมาแล้วต่อท่อพีวีซีให้ทั่วถึงทุกแปลงผัก บางคนใช้ถังพักแบบไฟเบอร์กลาสเก็บน้ำยกสูงจากพื้นดินประมาณ 5 เมตร ซึ่งจะมีน้ำใช้ตลอดปี
นางสายสมร อินคำ สมาชิกกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ บ้านหนองตาใกล้ ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ทำนาปลูกข้าว 5 ไร่ ปีที่ผ่านมา ฝนตกดี ผลผลิตได้ข้าวเต็มที่ ขายพอมีกำไร ซึ่งทุกปีหลังทำนา จะปรับพื้นดินทำการปลูกผักหลากหลายชนิด โดยได้เข้ารับการอบรมจากหน่วยงานราชการ จึงมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการปลูกผักเพิ่มมากขึ้น จากที่เคยแบ่งที่นาจำนวน 2 ไร่ ปลูกผักเช่น ต้นหอมขาว และหอมแดง ปีนี้ จึงขยายพื้นที่ทำการปลูกผักเต็มพื้นที่ 5 ไร่ เนื่องจากตลาดมีความต้องการผักปลอดสารพิษอย่างต่อเนื่องไม่เฉพาะขายในพื้นที่อำนาจเจริญ ยังมีพ่อค้าจาก จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี มาซื้อถึงที่นี่ทุกวันด้วย
นางสายสมร อินคำ กล่าวถึงขั้นตอนการปลูกหอมแดงและหอมขาวว่า เริ่มแรกจะต้องปรับพื้นที่ให้ดีก่อน จากนั้นให้พรวนดินผสมปุ๋ยอินทรีย์ ปล่อยไว้ 1 วันให้ดินตากแดด เพื่อฆ่าเชื้อโรค ต่อมาปรับแต่งให้เป็นแปลงผัก เสร็จแล้วให้นำพันธุ์หัวหอมมาทำการปลูก ด้วยวิธีใช้นิ้วนำร่องจิ้มลงดินแล้วหย่อนหัวหอมลงไป ระยะห่างแต่ละต้นหอมตามความเหมาะสม จนทั่วแปลง ในการบำรุงรักษาดูแลนั้น จะต้องรดน้ำเช้าเย็นทุกวัน ต้นหอมจะค่อยๆ เจริญเติบโต ระหว่างนั้นต้องคอยดูแลเก็บวัชพืชออกด้วย จนครบ 1 เดือน สามารถเก็บขายได้ ซึ่งราคาแตกต่างกัน ขายได้เงิน มีกำไรวันละ 300 - 500 บาท ส่วนน้ำที่ใช้รดผักจะใช้น้ำบาดาล โดยใช้ปั๊มสูบน้ำขึ้นมา กักเก็บไว้ที่ถังสูงแล้วปล่อยลงตามท่อพีวีซี ทำให้ไม่ขาดน้ำ สามารถปลูกผักได้ตลอดปี สำหรับปัญหาอุปสรรคในการปลูกผักส่วนใหญ่เป็นพวกแมลงต่างๆ คอยมารบกวนกัดกิน วิธีป้องกันจะใช้น้ำยาที่ทำจากพืชสมุนไพรฉีดพ่นขับไล่แมลงต่างๆ ไม่ให้มารบกวน ซึ่งได้ผลดีมาก
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี