3 ก.พ. 2568 เพจเฟซบุ๊ก “สหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร” โพสต์ข้อความระบุว่า

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ตัวแทนของสหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร เข้ายื่นหนังสือกราบเรียนถึงท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร Ing Shinawatra และสำเนาเรียนไปถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พิพัฒน์ รัชกิจประการ Phiphat Ratchakitprakarn  และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

ซึ่งกระบวนการยื่นหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามคำแนะนำของท่านรัฐมตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ พิพัฒน์ ที่ต้องการให้สหพันธ์ฯ จัดทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมกับรายละเอียดของปัญหาและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวกับหาบเร่แผงลอย ส่งตรงไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ท่านรับทราบที่มาของปัญหา และท่านพิพัฒน์จะนำประเด็นปัญหาดังกล่าวไปปรึกษาหารือกับท่านแพทองธารเป็นการภายในในลำดับถัดไป

โดยเนื้อความในหนังสือมีดังต่อไปนี้

สหพันธ์ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ ขอเรียนชี้แจงถึงผลกระทบจากนโยบายจัดการพื้นที่สาธารณะของ กรุงเทพมหานคร ที่ได้ดำเนินการไล่รื้อพื้นที่ทำมาหากินของผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ส่งผลให้ผู้ค้าฯจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นรายสูญเสียแหล่งรายได้และความมั่นคงในชีวิต ลูกค้าสูญเสียโอกาสในการเข้าถึงอาหารที่มีราคาถูกและซื้อได้สะดวก และสตรีทฟู้ดที่เป็นเสน่ห์ของประเทศไทยถูกทำให้ลดหายไป เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาพื้นที่สาธารณะและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก จึงขอเสนอให้รัฐบาลดำเนินการดังนี้

1. ขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณาชะลอนโยบายการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะ พ.ศ. 2567 ไปก่อน

2. ขอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการจัดเวทีหารือร่วมกันระหว่างภาคีต่างๆ อันประกอบด้วย สำนักงานกรุงเทพมหานคร กระทรวงแรงงาน นักวิชาการ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และตัวแทนผู้ค้าเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรม และสมดุลร่วมกันระหว่างผู้ค้า ผู้ใช้ทางเท้า และสังคมในภาพรวม

3. ขอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและสนับสนุนการจัดสรรพื้นที่ทำการค้า โดยใช้แนวทางพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังเช่นย่านข้าวสารหรือเยาวราช ในการพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ตลาดสะพานพุทธ ตลาดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ตลาดโบ๊เบ๊และตลาดสีลมไนท์มาร์เก็ต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02akfCViWvjx8XjtUiqWaej8o9cF7EHnFcajM8c1Xw4iu8VgzH9umsrw3NAcPdDPRil&id=100063850620021&rdid=qa9Uxny1mAWZJbeQ#

043...