สืบ ตม.3 รวบผู้ต้องหา คดีโหดชาวอิสราเอล สนองนโยบายคุมเข้มต่างชาติ ผบ.ตร.
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2568 พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.ฯ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. แถลงนโยบาย 7 ข้อ สั่งการตำรวจทั่วประเทศ คุมเข้มความประพฤติคนต่างด้าว มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวทุกมิติ ไปแล้ว สตม.โดย พล.ต.ท.ภานุมาศ บุญญลักษณ์ ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม.ได้สั่งกำชับให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการกวดขันให้เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร.ในการนี้กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 โดย พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ส.4 รรท.ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้เร่งสนองนโยบาย ผบ.ตร.โดยให้ดำเนินการกับคนต่างด้าวที่เข้ามากระทำความผิดกฎหมาย และคัดกรองบุคคลต่างด้าวที่แอบใช้สถานะการเป็นนักท่องเที่ยวแอบเข้ามาในราชอาณาจักรด้วย
จากมาตรการดังกล่าว กองกำกับการสืบสวน บก.ตม.3 โดย ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ รอง ผกก. และทีมกองสืบ ตม. 3 ได้ทำการคัดกรองบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร พร้อมประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานจากประเทศต่างๆ เพื่อคัดกรองคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ จนได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า มีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอุกฉรรกจ์ของประเทศอิสราเอล หลบหนีคดีมากบดานอยู่ในพื้นที่ย่านพัทยา เมื่อได้ประสานตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วน่าเชื่อได้ว่า คือ นาย T (นามสมมุติ) ชายชาวอิสราเอล วัย 27 ปี เป็นบุคคลตามตามหมายแดงในคดีอุฉกรรจ์จากประเทศอิสราเอลจริง จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวโดยได้ดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด” พร้อมทั้งได้เสนอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในอาณาจักรต่อไป
พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ รรท.ผบก.ตม.3 เปิดเผยว่า กรณีบุคคลต่างด้าวราย นาย T ได้ก่อเหตุ ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยการล่อล่วงเหยื่อมายังอพาทเมนต์ของตนกับเพื่อนซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกคนในคดีนี้ จากนั้นได้รุมกันใช้ขวดกระหน่ำทุบที่ศีรษะของผู้เสียหาย และใช้มีดแทงที่คอของเหยื่อจำนวนหลายแผล จนเป็นเหตุให้เหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะหลบหนีไป กรณีดังกล่าวศาลแขวงเมืองเทลอาวีฟ ได้ออกหมายจับนาย T ไว้แล้ว ในความผิดฐาน ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นอันตรายสาหัส และ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกกว่า 23 ปี
ทางการสืบสวนทราบว่า หลังก่อเหตุเมื่อนาย T รู้ว่าผู้ต้องหาอีกรายถูกจับกุม จึงได้รีบหลบหนีออกจากประเทศอิสราเอลมาด้วยหนังสือเดินทางปลอม ก่อนจะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทางจริงของตน เมื่อห้วงปลายปี 2567 และภายหลังได้ถูกกองสืบ บก.ตม.3 จับกุม ในละแวกที่พักย่านพัทยากลาง ก่อนที่จะได้ประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ประสานงานประจำประเทศไทย เพื่อส่งตัวบุคคลดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี