PM2.5พุ่งต่อเนื่อง

ทั่วไทยจมฝุ่นสีส้มยาวถึง10ก.พ.

สธ.สั่งเฝ้าระวังกระทบสุขภาพ

ภาพรวมค่าฝุ่นทุกภาคของไทย เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ระดับสีส้ม ใน 66 จังหวัด ส่วนกทม.ยังจมฝุ่นต่อวัดได้สีส้มทั้ง 50 เขตหนักสุดที่“บึงกุ่ม” คาดการณ์อีก7 วันข้างหน้าแนวโน้มฝุ่นเพิ่มขึ้นต้องเฝ้าระวังถึง 10 กุมภาพันธ์ ด้านสธ.แจ้ง PM2.5 ฟุ้งคลุม 65 จว.“สระบุรี”สูงสุดในไทย กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพย้ำสัปดาห์นี้จมฝุ่นต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เวลา 07.00 น.พบว่า ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานระดับสีส้ม ใน 66 จังหวัดคือ จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สุพรรณบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.ชุมพร จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ. สุรินทร์

อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกเป็นรายภาค ส่วนใหญ่ทุภาคเกินค่ามาตรฐาน อย่างภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 12.7 - 60.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดได้ 36.1 - 71.8 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก วัดได้ 26.1 - 76.2 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกวัดได้ 31.2 - 69.6 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 18.3 - 37.9 มคก./ลบ.ม. ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วัดได้ 34.5 - 63.2 มคก./ลบ.ม. คาดช่วง 1-2 วันข้างหน้า ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. พบว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 47.2 มคก./ลบ.ม. ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 66 พื้นที่มากที่สุด 5 อันดับคือ 1.เขตบึงกุ่ม วัดได้ 63.2 มคก./ลบ.ม. 2.เขตหนองจอก วัดได้ 62.5 มคก./ลบ.ม. 3.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล 61.7 มคก./ลบ.ม. 4.สวนหนองจอก เขตหนองจอก 58.2 มคก./ลบ.ม. 5.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 56.1 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นพื้นที่กทม. ปริมณฑล และภาคตะวันออก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 4 - 10 กุมภาพันธ์ และยังคงต้องเฝ้าระวังบางพื้นที่ 17 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแนวโน้มเพิ่มขึ้นวันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์และยังคงต้องเฝ้าระวัง บางพื้นที่ ภาคใต้ ดีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำให้ประชาชนทั่วไป ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ฝุ่นช่วงวันที่ 3-9 กุมภาพันธ์ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อน ประกอบกับมีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว (เพิ่มขึ้นสลับลดลง)

ที่กระทรวงสาธารณสุข ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) แถลงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นยังไม่หายไป แต่อาจลดลงบ้างบางช่วง จึงต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง สำหรับค่าความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่า จังหวัดที่อยู่ในระดับสีฟ้า ความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 0-15 มคก./ลบ.ม.ไม่มีจังหวัดใดเลย จังหวัดสีเขียว ค่าฝุ่น 15.1-25.0 มคก./ลบ.ม. มี 11 จังหวัด จังหวัดสีเหลือง ค่าฝุ่น 25.1-37.5 มคก./ลบ.ม. มี 10 จังหวัด จังหวัดสีส้ม ค่าฝุ่น 37.5-75.0 มคก./ลบ.ม. มี 54 จังหวัด และจังหวัดสีแดงค่าฝุ่นมากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป มี 1 จังหวัดคือ สระบุรี วัดได้ 76.25 มคก./ลบ.ม. เป็นสีแดงต่อเนื่องมาแล้ว 2 วัน ต่อมาคือ จ.หนองคาย และเพชรบุรี ส่วนหลายพื้นที่ เช่น กทม.ยังมีบางส่วนที่ค่าเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยยังเป็นสีส้ม

“คาด 7 วันข้างหน้า ค่าฝุ่นตอนนี้กลับมาอยู่ระดับปานกลางและเริ่มมีผลกระทบสุขภาพ ภาคเหนืออยู่ระดับปานกลาง 3 วัน จากนั้นจะสูงขึ้นจนเริ่มมีผลกระทบสุขภาพ ส่วนกทม.ปริมณฑล ภาคตะวันออก ฝุ่นหนาแน่นพอสมควรจากลมเปลี่ยนทิศทาง โดยอยู่ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะดีขึ้นช่วง 2 วัน จากนั้นต้องระวังตัว เพราะเริ่มมีผลกระทบสุขภาพ”โฆษก สธ.กล่าว

และว่า การดูแลตัวเองของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่าง จ.สระบุรีที่เป็นสีแดง ช่วงนี้งดออกกำลังกายหรือปรับเปลี่ยนไปอยู่ที่ร่ม ไม่อยู่ภายนอกที่มีมีฝุ่นเยอะ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านหรือช่วงฝุ่นมาก อาจเป็น N95 หากหายใจติดขัดให้ใช้หน้ากากอนามัยทั่วไป ลดกิจกรรมเกิดควันไฟหรือฝุ่น โดยระวังเรื่องการเผาขยะ เผาชีวมวล เช่นเดียวกับ จังหวัดสีส้มให้ดูแลตัวเองใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ให้สวมหน้ากากอนามัย ลดเวลาการอยู่ข้างนอก