4 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วยนายฐิติวัชร์ วารีรัตน์ภากร สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำความผิดของแรงงานต่างด้าวในลักษณะของการขายของแย่งอาชีพคนไทย หลังมีประชาชนแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกระทุ่มแบน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบอาคารพาณิชย์ ริมถนนเศรษฐกิจ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 2 ราย กำลังขายของให้แรงงานต่างด้าวด้วยกัน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อจับกุมและตรวจสอบเอกสารของแรงงานต่างด้าวที่อยู่ภายในร้านทั้งหมด
จากการตรวจสอบพบว่า แรงงานเมียนมาที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้า 1 ราย ใบอนุญาตอยู่ในประเทศได้สิ้นสุดลงแล้ว ส่วนแรงงานเมียนมา 2 ราย ที่ขายของให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานพบว่า ใบอนุญาตทำงานระบุเป็นกรรมกร แต่มาทำงานขายของ ซึ่งถือเป็นความผิดในลักษณะการทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่มี จึงคุมตัวแรงงานเมียนมาทั้ง 3 เพื่อส่งดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ระหว่างทำการสอบสวนขยายผล นางมินตรา ได้เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของร้านและเป็นนายจ้างของแรงงานต่างด้าว 2 ราย ที่ขายของภายในร้าน และจากการตรวจสอบสินค้าภายในร้าน เจ้าหน้าที่พบมีสินค้าประเภทอาหาร ที่ไม่เลขที่ อย. และไม่การติดฉลากภาษาไทย ตั้งวางอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังตรวจพบยาชนิดต่างๆ ทั้งสามัญประจำบ้าน ยาอันตราย ยาสมุนไพร โดยยาส่วนใหญ่เป็นยาที่ผลิตจากประเทศเมียนมา นอกจากนี้ยังพบมีการจำหน่ายยาสูบ (บุหรี่) ในลักษณะฉีกซองแบ่งขายเป็นมวนๆ
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นางมินตรา พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดหลายกระทง ประกอบด้วยจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มี อย.และไม่มีฉลากภาษาไทย ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท จำหน่ายยาอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเภสัชกรประจำร้าน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท จำหน่ายยาสมุนไพร โดยไม่ขึ้นทะเบียน และไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม พรบ.ยาสูบ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ส่วนแรงงานต่างด้าวที่อยู่ประเทศโดยใบอนุญาติสิ้นสุดลง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และแรงงานต่างด้าวที่ขายของภายในร้าน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 - 50,000 บาท พร้อมถูกส่งกลับประเทศต้นทาง
จากการสอบถาม นางมินตรา เปิดเผยว่า ได้มาเช่าอาคารพาณิชย์แห่งนี้เพื่อเปิดร้านขายของชำ ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2567 ส่วนสินค้าต่างๆที่เป็นสินค้าเมียนมานั้น ได้หาซื้อมาจากร้านค้าภายในจังหวัดสมุทรสาคร
หลังทำการตรวจสอบและยึดสินค้าผิดกฏหมายภายในร้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำบันทึกจับกุมพร้อมส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี