วันที่ 4 มกราคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีคนร้ายบุกชิงทอง ในร้านทองกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านคลอง 5 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณไปประมาณ 113 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณกว่า 5 ล้านบาท โดยประชุมร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ตำรวจ สภ.ลำลูกกา และตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง
โดย พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวภายหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก มีพยานหลักฐานที่พบเห็นและสิ่งที่เก็บรวบรวมมา มีประโยชน์มากพอสมควรที่สามารถเร่งรัดการดำเนินคดีได้ ส่วนตัวคนร้ายอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ และขณะนี้มีข้อมูลมากพอที่จะดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นออกหมายจับต้องสืบสวนให้แน่ชัดเพื่อทำการพิสูจน์ทราบให้ชัดเจนก่อน
ขณะที่พฤติการณ์ของคนร้ายงพบว่า เข้ามาบังคับให้อยู่เฉยๆ แต่ในขณะนั้นพนักงานของร้านเกิดความเกรงกลัวในภาวะจำยอม จึงปล่อยให้คนร้ายนำทรัพย์สินไป และพนักงานเป็นผู้หญิง แค่เห็นว่ามีชายฉกรรจ์ลักษณะนี้มาแย่งชิงทรัพย์สินในร้าน เขา เห็นอยู่แล้วว่าถ้าต่อสู้และไม่จำยอมอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต และจากภาพกล้องวงจรปิด คนร้ายไม่ได้หยิบอาวุธมาโชว์ แต่สันนิษฐานได้ว่าคนร้ายมีอาวุธอยู่ที่ตัวแต่ยังไม่ได้หยิบมาขู่
ส่วนจะพนักงานร้านมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องทำการพิสูจน์ทราบ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ เบื้องต้นพบว่า คนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนการก่อเหตุ และหลบหนีพบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบรุ่นและยี่ห้อให้ชัดเจน และยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ว่าหลบหนีไปที่ใด หรือยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งรัดติดตามคดีให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ยังตอบไม่ได้ว่า จะขอหมายจับได้ภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ และจากการประชุมพบว่า คนร้าย จะมีความผิดในข้อหาชิงทรัพย์ฯ โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม และหลังจากออกหมายจับ จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนให้ช่วยชี้เบาะแสอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตำรวจมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ถือเป็นมาตรการหลักอยู่แล้ว โดยเฉพาะจุดเสี่ยง มีแผนการปฏิบัติอยู่แล้ว และครั้งนี้ เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นก็จะต้องสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้นี้จากการตรวจสอบพบว่า ร้านทองดังกล่าว เคยถูกก่อเหตุชิงทองมาแล้ว 6 ครั้ง ในรอบ 10 ปี หลังจากนี้จะมีการเชิญผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยหารือเพื่อปรับแนวทางในการวางแผนป้องกันต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ล็อกเป้าโจรวิ่งราวกวาดทอง 113 บาท ตร.คาดลงมือคนเดียว เร่งไล่กล้องล่าตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี