5 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 04.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี น.ส.รุจิรา (เอ๋) อายุ 33 ปี เสียชีวิตภายในหอพัก ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยสามีได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง โดยหลอกหมอภรรยาล้มในห้องน้ำ แต่หมอพบจุดผิดสังเกตหลายจุด โดยมีรอยพกช้ำตามร่างกายรวมถึงใบหน้าและดวงตาช้ำผิดสังเกต จึงได้ล็อคห้องฉุกเฉิน ก่อนแจ้งตำรวจรวบตัวนายสุววณ บุญขาว (สามี) ขณะที่แม่และครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปรับศพของลูกสาวเพื่อเดินทางมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพื้นที่ ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษรบุรี จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เสียชีวิต น.ส.รุจิรา (เอ๋) อายุ 33 ปี ทางญาติและครอบครัวกำลังจัดเตรียมและรอรับศพของผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยญาติยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าสามีของผู้เสียชีวิตจะลงมือทำกับผู้เป็นเมียอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ และยังบอกกับหมอที่โรงพยาบาลอีกว่าเมียล้มในห้องน้ำ ซึ่งเป็นผัวเมียกันก็ควรพูดจากันดีๆ ไม่ต้องถึงขั้นลงมือกันขนาดนี้
ขณะที่ นายสวัสดิ์ อายุ 58 ปี (ผู้เป็นลุง) เล่าว่า หลานสาวได้โทรคุยกับคุณว่าปีใหม่จะกลับมาเที่ยวบ้าน ซึ่งจะต้องรอโบนัสที่ทำงานออกก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้งานศพของป้าหลานไม่ได้มา ตนมารู้ข่าวว่าอีกทีว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ก่อนหน้านั่นตนได้สอบถามน้องสาวซึ่งเป็นแม่ของหลานสาว ได้โทรไปหาลูกเขยจะขอคุยด้วยแต่ฝ่ายชายบอกว่าหลับไปแล้ว ซึ่งตนก็ขอคุยโทรศัพท์กับหลานเขยต่อ สอบถามว่าทะเลาะกันหรือไม่ ก็ยอมรับว่าได้ลงมือตบไป 3 ครั้ง แต่จากสภาพศพคือ กรามหัก คอหอ มีรอยบีบที่คอ ตนเองรับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้ ยืนยันว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
'มาทำกับหลานสาวแบบนี้ ตนไม่มีทางให้อภัยอย่างแน่นอน ลองคิดดูว่าหากตนไปทำกับพี่น้องของมันบ้างมันจะคิดยังไง หลานสาวตนเป็นคนดีเป็นคนทำมาหากินเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เป็นเสาหลักของคนในครอบครัว ตอนที่ฝ่ายขายมาบ้านที่กำแพงเพชร ตนก็มองว่าเป็นคนดี มีระเบียบเรียบร้อยดี แต่พักหลังมานี้ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น'
ตนได้ข่าวว่าวันเกิดเหตุฝ่ายชายดื่มเหล้าจนเมาและลงมือทำร้ายเมียเกิดการหึงหวง หาว่าเมียไปมีชู้ ซึ่งเป็นผัวเมียกันอยู่ด้วยกันก็น่าจะพูดคุยกัน แต่เรื่องยาเสพติดตนไม่รู้ว่าฝ่ายชายเสพหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ลงมือทำร้ายเมียแล้วตอนเช้าไปปลุกแต่เมียไม่ตื่นเลยพาส่งโรงพยาบาล จนความแตกดังกล่าว แม้แต่ตอนนี้จะมาขอขมาศพหลานสาวก็ไม่ต้องมา
ต่อมาเวลา 20.50 น. ร่างของน.ส.รุจิรา ได้เดินทางมาถึงบ้านที่กำแพงเพชร ซึ่งมีรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา โดย “เอ หมื่นศพ“ เป็นผู้นำศพของผู้เสียชีวิตมาส่งให้ พร้อมกับชี้ร่องรอยของการถูกทำร่างกายให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งก็ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนรถตู้กู้ภัยเปิดบาดแผลที่ถูกทำร้ายพร้อมกับเล่าให้ฟังว่า มีผู้ที่อยู่ข้างห้องไม่ประสงค์ออกนามเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เสียชีวิต ลักษณะเหมือนทะเลาะกัน ตนมองว่าเรื่องของผัวเมียก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้แต่การใช้ความรุนแรงตนมองว่าไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายหญิงร้องขอชีวิตขนาดนี้แล้วฝ่ายชายทำไมถึงไม่หยุด
ตนเห็นใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้ตนนั่งรถมาตลอดทางบางช่วงตนได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิง จนตนต้องจอดรถข้างทาง และเดินมาบอกว่าอดทนนะเดี๋ยวก็จะถึงบ้านแล้ว โดยผู้ใช้ข่าวได้พบว่าตามร่างกายของผู้เสียชีวิตนั้นมีบาดแผลพกช้ำทั่วร่างกาย ซึ่งจะหนักไปในส่วนของศรีษะ โดยพบว่ามีอาการคอหัก ดั้งหัก ที่ลำคอมีรอยเขียวช้ำ
หลังจากที่นำศพลงมาจากรถญาติได้ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน จากนั้น “เอ หมื่นศพ” ได้ทำการแต่งหน้าให้ผู้เสียชีวิตก่อนนำร่างเข้าโลงศพและบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
นายสาธิก อายุ 24 ปี (น้องชายของผู้เสียชีวิต) เล่าว่า หลังจากที่ตนเองและแม่ไปรับศพพี่สาวที่โรงพบาลตำรวจ ซึ่งได้เห็นสภาพศพพี่สาวพบว่าบริเวณใบหน้าบวมเหมือนโดนซ้อมมาหนัก ซึ่งไม่ตรงกับคำพูดที่สามีพูดไว้ว่าตบแค่ 3 ครั้ง และผลการชันสูตรของแพทย์ตามร่างกายก็ย้อนแย้งกับคำให้การกับตำรวจ ซึ่งขณะเดินทางไปรับศพแต่ยังไม่ถึงตำรวจก็ให้ประกันตัวผู้ก่อเหตุไปก่อน ไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องมีคัดค้านการประกันตัวเพราะเกรงว่าพี่สาวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่อยากให้เรื่องเงียบ
ที่ผ่านมาพี่สาวก็โทรมาเล่าให้ตนฟังบ่อยว่ามีเหตุทะเลาะและถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ซึ่งช่วงหลังปีใหม่เดือนมกราคมก็เริ่มทะเลาะกันหนักจนฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่าง พร้อมโทรมาเล่าให้แม่ฟัง โดยก่อนที่จะเสียชีวิตฝ่ายชายได้โทรมาบอกกับแม่ว่าทะเลาะกับฝ่ายหญิงแต่ก็ไม่ยอมให้คุยโทรศัพท์ด้วยบอกเพียงแค่ว่านอนหลับไปแล้ว จนมาพบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว ตนมองว่าตั้งใจที่จะฆ่าพี่สาวตนมากกว่าที่จะแค่ทะเลาะกัน
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี