ธุรกิจแก๊งคอลฯในเมียวดีฆ่าไม่ตาย ยังทำงานหลอกคนไทยต่อไปแบบชิวๆ หลังมีเวลาเตรียมตัวกักตุนน้ำมัน และซื้อเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรอง ขณะที่มาตรการตัดไฟฟ้า-น้ำมันทำชาวเมียวดีเริ่มวุ่นเข้าคิวตุนน้ำมันยาวเหยียด
5 ก.พ.68 เว็บไซต์ สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่า ภายหลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) งดจ่ายกระแสไฟฟ้า 5 จุดในประเทศพม่าตั้งแต่เวลา 09.00 น.ปรากฏในหลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์บริเวณริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดี ประเทศพม่า ยังสามารถดำเนินธุรกิจต้มตุ๋นหลอกลวงต่อไปได้ โดยเหยื่อรายหนึ่งซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เล่าว่า ขณะนี้ (ช่วงเวลา 10.00-11.00 น.) พวกตนยังต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อหลอกลวงเหยื่อจากหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยต่อไป
“จริงๆ แล้วพวกเราก็หวังว่าไฟฟ้าจะไม่มีใช้ ธุรกิจของพวกคนจีนจะได้ยุติลง แต่ทราบว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวว่าจะตัดไฟฟ้า พวกเขาได้สั่งตุนน้ำมันจำนวนมากและซื้อเครื่องปั่นไฟสำรองไว้แล้ว”เหยื่อรายหนึ่ง กล่าว
ขณะที่ช่างไฟฟ้ารายหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า จริงๆแล้วเมืองเมียวดีทั้งหมดพึ่งพาการใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทย ก่อนหน้านี้เคยมีไฟฟ้าที่ผลิตแถวเมืองมะละแหม่งส่งมา แต่เมื่อเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) ทำให้สายส่งไฟฟ้าถูกทำลายเกือบหมด ดังนั้นในเมืองเมียวดีทั้งหมดต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากฝั่งไทย ซึ่งในอดีตเมื่อกว่า 20 ปีก่อน กฟภ.ขายไฟฟ้าให้ฝั่งพม่าเป็นปกติเพราะยังไม่มีแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์เกิดขึ้นแบบนี้ และในยุคแรกๆที่มีการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก่ก็ไม่มีใครคิดว่าไฟฟ้าที่ส่งไปจากไทยจะกลายเป็นเครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพ
“ครั้งก่อนสมัย ครม.เศรษฐา ได้มีการทดลองตัดไฟฟ้าครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นฝั่งโน้นเขาจึงเตรียมตัวไว้ดี มีการตุนน้ำมันดีเซลไว้นับแสนลิตรเพื่อใช้กับเครื่องปั่นไฟ เขาคงอยู่ได้ระยะหนึ่งนั่นแหละ แต่เดี๋ยวก็เห็นผล เพราะระยะยาวอยู่ยาก หากถูกตัดไฟและน้ำมันเช่นนี้” ช่างไฟฟ้ารายนี้ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์ในเมืองเมียวดี ประชาชนเริ่มกักตุนน้ำมันโดยภายหลังที่รัฐบาลไทยประกาศตัดไฟและน้ำมัน ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต่อคิวตามปั้มต่างๆเพื่อซื้อน้ำมัน ซึ่งการนำเข้าน้ำมันในเมืองเมียวดีต้องผ่านช่องทางจากไทยอย่างเดียว เนื่องจากเส้นทางสายหลักที่เชื่อมโยงไปเมืองพะอันถูกตัดขาดตั้งแต่การสู้รบรุนแรงระหว่างกองทัพพม่าและKNU เมื่อปีก่อน ซึ่งขณะนี้ KNU ยังยึดครองพื้นที่บนถนนหลวง AH1 ในช่วงที่ผ่านพื้นที่กอกะเร็กไว้ได้
ทั้งนี้จุดที่ทางการไทยสั่งระงับการส่งไฟฟ้าประกอบด้วย 1.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ถึงเมืองพญาตองซู รัฐมอญ 2.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ถึงเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา 3.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายถึงเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉานประเทศเมียนมา 4.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 5.จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านห้วยม่วง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี