"รองหวาน"พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผอ.ศปอส.ตร. เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งทีมตำรวจ PCT โดย"รองจ๋อ-สว.แจ๊ะ" ร่วม น.1 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ไล่ล่า “2บิ๊กบอสคอลเซ็นเตอร์ ยี-ลี่” ก่อนบุกเข้าจับกุม คาหมู่บ้านหรูใจกลางกรุง ยึดทรัพย์ 15 ล้าน ขยายผลพบรังปลวกแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) และ บก.สส.บช.น. สืบสวนจับกุมตัว1.นายยี อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.784/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 68 2.นายลี่ อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.785/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 68 โดยกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆเพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือยืมบัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”
จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านย่านรัชโยธิน ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และต่อเนื่องไปจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บ้านภายใน หมู่บ้านย่านรัชโยธิน ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ตรวจยึดของกลาง 4 รายการ 1.เงินสด (ไทยและต่างประเทศ) มูลค่าประมาณ 417,546.67 บาท,2.ของแบรนด์เนมจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 4,305,846.67,3.รถยนต์ Benz Maybach S580e ราคาประมาณ 11,000,000 บาท 4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง (พบข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก) รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดมูลค่าประมาณ 15,305,846.67 บาท
พฤติการณ์กล่าวคือ แผนประทุษกรรม “กระทืบซ้ำ” มุขใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลโกงคร่าชีวิตสุดอันตราย โดยกลุ่มคนร้ายจะสร้างเพจปลอมทำเสมือนเป็นหน่วยงานตำรวจและ ปปง. พร้อมคีย์เวิร์ด “ติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืน” และทำการ “ยิงแอด” โฆษณาปั่นยอดไลค์ให้เพจดูมีความน่าเชื่อถือ ทำให้ประชาชนในโลกโซเชียลหลงเชื่อว่าเป็นหน่วยงานจริงๆ แต่เมื่อทำการติดต่อไปจริงๆ จะถูกลากจูงเข้าไปสู่ “ห้องเชือด” ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์ที่จะมี ทนายตัวปลอม ผู้เชี่ยวชาญ หัวหน้าฝ่าย it ต่างๆนาๆ ทำทีสร้างชาจเส้นทางการเงินให้เหยื่อดู ก่อนอ้างว่าเงินที่ถูกหลอกไหลไปสู่เว็บพนันในต่างประเทศ จะต้องให้ฝ่าย it ยิงระบบนำเงินคืนมา แต่ท้ายสุดทำไปทำมาก็ถูกหลอกซ้ำอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านหลายๆแห่ง ต่างหันมาใช้แผนประทุษกรรมนี้ในการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 30 ม.ค. 67พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ ตำรวจPCT โดยมีพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ก่อนส่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. ลุยปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเร่งด่วน ตามนโยบายของน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี
ซึ่งต่อมาได้มีการสืบสวนสอบสวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ โดยสืบทราบจากที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ซึ่งพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น.ทำการสืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจPCT ด้วยความขยันของ พ.ต.ท.สมเจตน์ พลเหลา สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก จนนำมาสู่การค้นพบ “บิ๊กบอส” ชาวจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง 2 ราย คู่หูนรก ลี-ยี่
ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับคนร้ายทั้งสอง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ นำกำลัง “ตำรวจPCT” ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย กระทั่งได้สืบทราบว่าคนร้าย “หลวมตัว” ย่างกรายเข้ามาในประเทศไทย มาเช่าบ้าน-ขี่รถหรู อยู่ใจกลางกรุง วันที่ 5 ก.พ. 68 ทีมสารวัตรแจ๊ะได้นำกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่หน้าหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านรัชดา ได้พบกับ นายลี กำลังนั่งรถโดยสารมาที่หมู่บ้านเพื่อนมาหาคู่หู จึงรวบตัวไว้ทันที ระหว่างรวบตัว นายลี กำโทรศัพท์ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเสมือนซ่อนความลับไว้มากมายในนั้น
หลังจับกุมนายลี่ได้แล้วชุดสืบสวนขยายผลไปที่บ้านหรูภายในหมู่บ้านดังกล่าว ก่อน “บุกดิบ” เข้าไปในบ้านพักเพื่อจับกุมตัวนายยี่ แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องนอนของนายยี่ไม่ยอมเปิดประตูให้จนชุดสืบสวนต้องใช้กำลัง “พังประตู” บุกเข้าไปรวบตัวได้ทันควันก่อนที่นายยี่จะวิ่งไปลบข้อมูลในโทรศัพท์ ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้ขยายผลจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบว่า ทั้งสอง เป็นระดับ “บิ๊กบอส” มีธุรกิจ คอลเซ็นเตอร์ , สแกมเมอร์ และบริษัทฟอกเงิน หลายแห่งในประเทศเพื่อนบ้าน โดยล่าสุดทั้งสองหันมาจับการหลอกลวงแบบ “ยิง SMS” โดยล่าสุดพึ่งจะหาซื้อถังข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์กว่าหลายแสนเบอร์เพื่อจะนำมายิง SMS หลอกลวงนี้ และยังพบข้อมูลในโทรศัพท์การเข้าถึงควบคุม “หลังบ้าน” ของสแกมเมอร์ที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน “อีกเพียบ” หลังขยายผลชุดสืบสวนได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินภายในบ้านหรูแห่งนี้หลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท
ในชั้นจับกุม นายยี และ นายลี่ ยังคงให่การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ / ผอ.ศปอส.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ขยายผลการจับกุม ณ บ้านหรูดังกล่าว เพื่อปฏิบัติการกวาดล้างตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี