นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ร่วมกับกรมอุทยานฯ กระทรวงทรัพยากรฯจับผู้ต้องหาลักลอบเผาป่า ตามยุทธการ “ 90 วัน คนดีไม่เผา คนเผาโดนจับ ”
วันนี้ (6 ก.พ.) นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผอ.สบอ.3 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับการประสานการปฏิบัติจากนายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ว่าได้สั่งการให้ปลัดอำเภอร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบเผา 2 ราย ดังนี้ เวลา 15.00 น.สั่งการให้นายวิวรรธน์ กิจเจริญ ปลัดอำเภอ สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอศรีสวัสดิ์ที่ 10 และนางสุภาณี ตองแก้ว ผู้ใหญ่บ้านบนเขาแก่งเรียง หมู่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ นำโดยนางขวัญใจ น้อยนารายณ์ หัวหน้าอช.เอราวัณ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บริเวณป่าน้ำโจน ม.3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์
ชุดเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงสถานที่เกิดเพลิงไหม้ตามที่ได้รับแจ้ง พบนาย น. (นามสมมุติ) อายุ 64 ปี เจ้าของแพและบ้านพักซึ่งจอดอยู่บริเวณริมตลิ่ง หมู่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยนาย น.ให้การว่าตนเองจะเข้าไปทำความสะอาดแพท่องเที่ยวและบ้านพักของตนเองทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี ซึ่งในขณะเกิดเหตุตนเองจุดเผาขยะบริเวณบ้านพักริมตลิ่ง โดยนาย น. ยืนยันว่าต้นเพลิงไม่ได้เกิดจากกองขยะที่ตนเองจุด แต่จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุของชุดเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานพบว่าต้นเพลิงมาจากกองขยะที่นาย น. จุดและลุกลามติดกอไม้ลวกบริเวณใกล้เคียง และพบนาย น. อยู่ในสถานที่เกิดเหตุแต่เพียงผู้เดียว ชุดเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกจับกุมที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ทั้งนี้ ในเวลา 20.30 น.นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้เดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เพื่อสังเกตการณ์การบันทึกจับกุม และกล่าวว่า ขอสื่อสารไปถึงพี่น้องชาวอำเภอศรีสวัสดิ์ ขอความร่วมมือไม่กระทำการใดๆ ที่ขัดกับประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี ได้ลงนามตั้งแต่ 16 มกราคม 2568 ประกอบกับตนเองได้ลงนามในคำสั่งอำเภอศรีสวัสดิ์ ที่45/2568 เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ประกาศยุทธการ " 90 วัน คนดีไม่เผา คนเผาโดนจับ " เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเผาทุกกรณี
ต่อมาได้รับรายงานว่า มีการจับกุมได้อีกราย เป็นรายที่ 2 โดยเมื่อเวลา 16.00 น.ได้สั่งนายฉกาจ อาสาสนา ปลัดอาวุโส ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เข้า ตรวจสอบพื้นที่กรณี ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแจ้ง การเกิดเพลิงไหม้บริเวณหน้าถ้ำองค์จุ หมู่ 1 ต.นาสวน และให้หาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ ผลการตรวจสอบ พบว่า เพลิงได้ไหม้ใบไม้แห้ง ขยายเป็นวงกว้าง ประกอบกับ พื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน และเริ่มมืดแสงพระอาทิตย์แล้ว จึงไม่สามารถดับไฟได้ แต่ในที่เกิดเหตุ ได้พบ นาย ร.อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งทราบว่า นาย ร.มาพักอาศัยอยู่ในถ้ำองค์จุ เพื่อปฏิบัติธรรม แต่ให้การปฏิเสธการจุดไฟเผาป่าในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนาย ร.ผู้ต้องสงสัย มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบสวนขยายผลหาสาเหตุและผู้กระทำผิดของการเกิดเพลิงไหม้ ต่อไป
จากการตรวจสอบพื้นที่ เจ้าหน้าที่คำนวณ พื้นที่ไฟไหม้และบุกรุกทั้งหมดประมาณ 17 ไร่ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และ 72 ตรี ฐานบุกรุกแผ้วถางป่า และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (1) , 20 และ 47 ฐานครอบครองพื้นที่โดยมิชอบและเผาป่า นอกจากนี้ยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศจังหวัดกาญจนบุรีเรื่องห้ามเผาโดยเด็ดขาด ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220
ผอ.สบอ.3 ได้กำชับเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี ที่ให้ดำเนินการ คดีกับผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าอย่างจริงจัง โดยความร่วมมือของส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี