6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ บริเวณชายหาดสมิหลา จ.สงขลา พบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เจ้าเดินทางเข้ามาถ่ายภาพกับนางเงือกทอง เกาะหนูและเกาะแมว สัญลักษณ์ของชายหาดสมิหลา แต่ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ใครมาแล้วต้องได้พบเห็น และใช้บริการ นั่นก็คือ ‘ม้าคาวบอย’ โดยจะมี จ๊อกกี้ ที่แต่งกายเหมือนคาวบอย เดินจูงม้าพานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเดินเลียบชมวิวสวย ๆ ของหาดสมิหลาบนหลังม้า สร้างสีสันให้กับชายหาดสมิหลามาหลายปี และไม่ได้สร้างมลภาวะในด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชายหาดด้วย เนื่องจากจ๊อกกี้ทุกคนจะต้องพกถุงพลาสติกเพื่อเก็บขี้ม้าทันที ซึ่งเป็นกฎกติกาที่เคร่งครัดของชาวม้าคาวบอย ที่จะต้องดูแลในเรื่องความสะอาด และมลภาวะในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการรวมตัวกันในชื่อชมรมว่า ‘สมิหลาคาวบอย สงขลา’ มีม้าไว้คอยบริการจำนวน 11 ตัว

เนื่องจาก ม้าคาวบอย บริเวณชายหาดสมิหลายังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยชมรม ‘สมิหลาคาวบอย สงขลา’ ได้นำม้ามาให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นการเพิ่มสีสันการท่องเที่ยวและสร้างรายได้อย่างงามให้กับจ๊อกกี้เจ้าของม้าคาวบอย ขณะนี้ม้าคาวบอยเป็นอาชีพหลักอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้นำมาเลี้ยงครอบครัวได้อาชีพหนึ่งที่ไม่แพ้อาชีพอื่นๆ มีรายได้ต่อวันประมาณ 700 บาท โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ถึงแม้ว่าในบางวันสภาพอากาศจะมีฝนตกลงโปรยปรายเป็นบางช่วง ทะเลมีคลื่นแรงแต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการใช้บริการม้าคาวบอย แต่อย่างใด

สำหรับค่าบริการ ม้าคาวบอยชายหาดสมิหลา จ.สงขลา คิดค่าบริการคนละ 150 บาท ต่อ 1 รอบ นั่งจากบริเวณนางเงือกทองไปจนถึงรูปปั้นหนูแมวและกลับมาส่งที่เดิม ระยะทางไปกลับประมาณ 500 เมตร หรือขี่ม้าถ่ายรูป คิดค่าบริการคนละ 50 บาท

นายสมบัติ  สุจวิพันธ์ จ๊อกกี้ม้าหมายเลข 3  กล่าวว่า “อาชีพม้าคาวบอยก็ยังมีรายได้ดีอยู่ทุกวัน วันนี้มีม้ามากันเหมือนทุกวัน เพราะเราจะรู้ว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเริ่มมาทุกวัน โดยเฉพาะวันศุกร์เสาร์และวันอาทิตย์ ความนิยมในการขี่ม้าของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซียใกล้เคียงกัน รายได้ต่อวันเฉลี่ยแล้วประมาณ 700 บาทต่อวัน เราอยู่ได้ แม้ยังมีค่าใช้จ่าย เป็นอาชีพที่เรารักและถนัดในด้านการเลี้ยงม้าและเลี้ยงกันมานานแล้ว”

.025