ส่งมอบหลักฐานเด็ดให้ดีเอสไอ
มือถือ‘แตงโม’
ไขคดีดาราสาวเสียชีวิตปริศนา
จำลองตกเรืออีกรอบ 17 ก.พ.
‘อัจฉริยะ’ยันไม่ร่วมทีม‘เต้’
คณะทำงานพิสูจน์คดีการเสียชีวิตของ“แตงโม” ประกาศไม่ร่วมทีม “เต้-มงคลกิตติ์” ระบุชัดเป้าหมายและแนวทางการทำงานต่างกัน “หมอธวัชชัย” บินกลับจากอเมริกา หลังไปรับโทรศัพท์มือถือของ“แตงโม” มาจาก“บังแจ็ค” ก่อนส่งหลักฐานเด็ดให้ดีเอสไอ ขณะที่ดีเอสไอเตรียมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรืออีกครั้ง 17 กุมภาพันธ์นี้
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีบังแจ็ค ที่จะส่งมอบโทรศัพท์มือถือของแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบ โดยระบุว่าเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นางพนิดา ศิริยุทธโยธินคุณแม่ของแตงโมยินยอมส่งมอบโทรศัพท์มือถือของแตงโมให้บังแจ็ค ซึ่งบังแจ็คได้กู้ไฟล์ที่ถูกลบออกไปกลับมาใหม่ทั้งรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจนำโทรศัพท์ของแตงโมไปตรวจสอบเกือบ 10 วัน และส่งคืน หลังจากนั้นพบว่าข้อมูลในโทรศัพท์ถูกลบ จึงส่งมอบโทรศัพท์เครื่องนี้ให้บังแจ็คโดยตรง และพบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็น โดยเฉพาะการพิสูจน์ทราบว่าข้อมูลเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
“เราได้พิสูจน์จากพิกัดของโทรศัพท์เทียบกับ GPS ของเรือพบว่าข้อมูลสอดรับกันและมีพิรุธหลายประเด็น บังแจ็คจึงให้ความร่วมมือและส่งมอบโทรศัพท์มือถือของแตงโมกลับคืน ซึ่งข้อมูลได้ถูกกลั่นกรองผ่านนายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าแล้ว ซึ่งบังแจ็คไว้ใจส่งมอบโทรศัพท์ให้เพียงแค่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อาจารย์ปานเทพ และนายแพทย์ธวัชชัย 3 คนนี้เท่านั้นนายแพทย์ธวัชชัย จึงออกค่าใช้จ่ายส่วนตัว เดินทางไปรับโทรศัพท์จากบังแจ็คที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในคืนนี้และจะส่งมอบโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่เอสไอ โดยมีการปิดถุงมาอย่างดี โดยยืนยันว่านายแพทย์ธวัชชัยไม่แตะต้องโทรศัพท์เลย” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวถึงคลิปวิดีโอใหม่ล่าสุด 2 คลิป ที่ตนได้เผยแพร่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าเป็นคลิปที่พบในโทรศัพท์ของแตงโมจริง ระบุวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.19 น. และ 22.22 น. ซึ่งเป็นคลิปที่ถ่ายขณะอยู่บนบก แต่คำให้การของคนบนเรือขัดแย้งกับคลิปวิดีโอ ซึ่งเชื่อว่ามีขบวนการพยายามดิสเครดิตของบังแจ็ค เพื่อไม่ให้เชื่อถือหลักฐานชิ้นนี้ และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบัญชีที่ไม่มีตัวตน เป็นบัญชีปลอม และเมื่อสืบค้นบัญชีเหล่านี้ย้อนหลังพบว่าเป็นขบวนการเครือข่ายเดียวกัน
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีระหว่างตนกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์โดยยอมรับว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วตัวเองได้รับวงจรปิดจากนายมงคลกิตติ์จริง แต่ไม่เคยนำไปใช้ที่ศาลอาญา ซึ่งนายมงคลกิตติ์พูดไปเรื่อย ตนเองใช้คลิปจากสื่อมวลชนเป็นหลัก หลังจากนั้นลูกน้องของนายมงคลกิตติ์ก็ถูกดำเนินคดี 1 คน ซึ่งตัวเองได้จ่ายเงิน 1.5 แสนบาท เพื่อจ้างทนายความให้มาช่วยต่อสู้เรื่องคดีให้กับลูกน้องของนายมงคลกิตติ์
“ส่วนเหตุผลที่ไม่สามารถร่วมทีมกับนายมงคลกิตติ์ได้ เพราะว่ามีแนวทางและเป้าหมายในการดำเนินการต่างกัน นายมงคลกิตติ์ให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฎิบัติหน้าที่โดยชอบ เพราะเวลาในการสืบสวนมีน้อย ซึ่งขัดแย้งกับแนวทางของคณะทำงาน แต่ก็ยังได้แนะนำว่า แม้เป้าหมายการทำงานจะต่างกัน ก็ยังมีช่องทางอื่นถ้าหากมองว่าเป็นคดีฆาตกรรมและจะต่อสู้เพื่อแตงโมจริง และก่อนหน้านั้นที่เคยไปขึ้นศาลได้พบกับทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของคุณแม่แตงโม ในช่วงเย็น จึงได้พูดคุยกันนายอัจฉริยะยืนยันว่านายมงคลกิตติ์เป็นคนขัดขวางให้ทนายกฤษณะไปอยู่กับตนเอง วันต่อมาคุณแม่ของแตงโมก็ถอนฟ้อง” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีนักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีแตงโมเพื่อช่วยเหลือคนบนเรือ ซึ่งในตอนแรกพบมีแค่อดีต สว. แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่ายังมีนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศที่ตำรวจและดีเอสไอเกรงใจ โดยช่วงเวลาเกิดเหตุพบว่านักการเมืองคนนี้โทรศัพท์เข้ามาหาคนบนเรือหลายสาย ซึ่งส่วนตัวก็รู้จักกับนักการเมืองคนดังกล่าวและได้พูดคุยกันแล้ว นักการเมืองคนนี้ยินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายปานเทพ ได้โชว์รูปภาพและคลิปวิดีโอใหม่ 2 คลิป ส่วนนายอัจฉริยะได้เปิดภาพนิ่งที่มีมือของบุคคลหนึ่งพร้อมผงสีขาวบนโต๊ะและหลอดพลาสติก โดยระบุว่าภาพนี้พบในโทรศัพท์มือถือของแตงโม ทั้งนี้ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะจำลองเหตุการณ์ตกเรืออีกครั้ง แต่จะไม่ใช่ลักษณะตกลงไปในน้ำ โดยจะใช้เครื่องยนต์เรือชนิดเดียวกันในวันเกิดเหตุมาพิสูจน์ด้วย
ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กเพจ“มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ถึงกรณีถูกโจมตีว่ากั๊กข้อมูลการเสียชีวิตในคดีแตงโม และนาย อัจฉริยะ ระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ประกาศห้ามนายมงคลกิตติ์เข้าบ้านพระอาทิตย์เด็ดขาดนั้นว่า ยืนยันว่าคนอย่างตนไม่มีกั๊กข้อมูล เพราะได้ส่งมอบหลักฐานภาพวงจรปิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของแตงโมให้กับดีเอสไอทั้งหมด และใช้เป็นพยานหลักฐานตอนสมัยที่นายอัจฉริยะถูกดำเนินคดี อีกทั้งนายอัจฉริยะมาขอภาพจากกล้องวงจรปิดไปไขคดีแตงโม ตนก็ไม่เคยปฏิเสธ แม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงยังส่งลูกน้อง 2 คนไปช่วยตลอด จนลูกน้องถูกดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะไปด้วย 1 คน
“นายอัจฉริยะอาจจะเข้าใจผมผิดไปในเรื่องของหลักฐาน เพราะถ้าผมเป็นคนขี้หวงหลักฐานต่างๆ คงไม่ให้นายอัจฉริยะเอาไปแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องมีคนตกเรือไม่ตกเรือ มีคน 5 คน หรือ 6 คนบนเรือ เพราะนายอัจฉริยะไม่มีคลิป และถามว่าผมให้คลิปนายอัจฉริยะไปทำไม 3 ปีที่แล้วถ้าผมเป็นคนไม่จริงใจ ผมไม่เคยเอาเงินจากนายอัจฉริยะสักบาท และผมไม่ได้ทำมาหากินเกี่ยวกับเรื่องการเปิดคลิปแล้วไถตังค์ และผมไม่เคยขอโฆษณา ส่วนเรื่องที่ผมดังนั้น ผมดังมานานมากแล้ว และดังมากด้วย” นายมงคลกิตติ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี