เค้นสอบผู้หมวดเก๊
ร่วมแก๊งคอลฯตุ๋นเหยื่อ 800 ล.
ตะลึง! รายได้นับแสนต่อเดือน
ตร.ไซเบอร์ จับผู้หมวด“กองร้อยปอยเปต” แก๊งคอลฯ แต่งกายเป็นตำรวจลวงผู้เสียหายโอนเงินให้พบมีผู้เสียหาย 151 ราย สูญกว่า 800 ล้านบาท เปิดปากได้รับค่าตอบแทน 5 หมื่นบาทต่อเดือน แถมส่วนแบ่งจากที่ตุ๋นเหยื่อสำเร็จ เฉลี่ยรับเดือนละแสน กลับไทยมาเกณฑ์ทหาร ถูกรวบคาค่าย เล็งสอบสวนขยายผล
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)หรือตำรวจไซเบอร์ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์รักษาราชการแทน รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รักษาราชการแทน ผบก.สอท.1พร้อมคณะ แถลงจับกุมนายอนุวัต อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ และข้อหาที่เกี่ยวข้องจับกุมได้ที่บริเวณค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร ระบุว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายพัวพันกับคดียาเสพติด ต้องโอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไป ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหาย 151 ราย หนึ่งในนั้นมีผู้ประกาศข่าวรวมมูลค่าเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน 2567 ทางตำรวจ บก.สอท.1 สืบสวนสอบสวนจนทราบว่านายอนุวัต มีความเกี่ยวพันกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงผู้เสียหายจึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหา และติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า เคยเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อช่วงปี 2566 ก่อนจะกลับมาประเทศไทย และถูกชักชวนให้กลับไปเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์อีกครั้ง แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยมีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม ซึ่งจะมีบทให้พูดเป็นสคริปต์ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 50,000 บาท รวมทั้งได้ส่วนแบ่งอีกร้อยละ 3-5 ของยอดเงินที่หลอกลวงจากเหยื่อสำเร็จในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ก่อนจะเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเกณฑ์ทหารและมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สำหรับนายอนุวัต จะอ้างตัวเป็นร.ต.ท.ธีระ รองสว.ฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองมุกดาหาร ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาจะรับหน้าที่เป็นสายที่ 1 แต่พอเริ่มมีความชำนาญก็ขยับขึ้นไปเป็นสายที่2 สำหรับสายที่1 นั้น จะทำหน้าที่โทรศัพท์ไปหลอกผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วโอนสายไปหาสายที่ 2 ที่จะปลอบใจให้คลายความกังวล ซึ่งมีการแต่งตัวเป็นตำรวจ สร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นก็จะส่งต่อไปยังสายที่ 3 เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงิน เหมือนเป็นการจบดีล
ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหารายนี้อยู่ในแก๊ง ‘พูลิ กาสิโน’ซึ่งจะหลอกผู้เสียหายในหลายรูปแบบ ทั้งหลอกให้รัก หลอกให้กลัว หลอกให้ร่วมลงทุน หลอกไปทำงาน หลอกให้กดลิงค์เพื่อดูดเงิน โดยฐานปฏิบัติการหลักอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้ต้องหารายนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ทางตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จับกุมได้ 2 ราย ก่อนหน้านี้อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งสอบสวนขยายผลทางคดีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี