กทม.ฝุ่นยังอ่วม
30 จุดระดับสีส้ม
ปชน.บี้รบ.-กทม.
ชง 3 มาตรการแก้
กรมควบคุมมลพิษ เตือน 7-8กุมภาพันธ์นี้ กทม.อ่วมฝุ่นพิษ อากาศขมุกขมัว-ความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่า 90% ส่วนศูนย์ข้อมูลอากาศกรุงเทพฯ เผยเมืองกรุง ค่า PM2.5 เกินมาตรฐาน 30 พื้นที่ ในระดับสีสัม
เมื่อวันที่ 6กุมภาพันธ์ ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ระหว่างวันที่ 7-8กุมภาพันธ์ 2568 ในตอนเช้า ท้องฟ้าจะขมุกขมัว ส่งผลให้ทัศนวิสัยลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เนื่องจากค่าความชื้นสัมพัทธ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงกว่า 90% ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว ประกอบกับฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์ฝุ่นละอองจะลดลงในช่วงวันที่ 9-10กุมภาพันธ์2568หลังจากนั้นจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ศกพ.ขอแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ข้อมูลสภาพอากาศที่อาจมีผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวป้องกันล่วงหน้า ลดกิจกรรมกลางแจ้ง เมื่อออกจากบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ด้านศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 28.1-47.8 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) รวม 30 พื้นที่ อาทิ 1.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม.2.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.3.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล มีค่าเท่ากับ 46.8 มคก./ลบ.ม.4.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ซอยเพชรเกษม 36) มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.5.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.เป็นต้น
สำหรับข้อแนะประชาชนทั่วไป ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.และ สก.แถลงข่าววิกฤต PM2.5 คือวิกฤตภาวะผู้นำ โดยขึ้นไปแถลงที่บริเวณดาดฟ้า ชั้น 6 อาคารรัฐสภา โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ฝุ่น PM2.5 ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เป็นผลจากช่องว่างการบริหารทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ชาว กทม.ต้องอยู่กับปัญหานี้มากว่า 30 วัน จึงถือว่าเป็นวิกฤตอย่างมาก
“ผมคิดว่าเป็นเวลาที่รัฐบาลและผู้บริหารท้องถิ่น จำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการร่วมกันอย่างจริงจัง อุดช่องว่างที่เกิดในการบริหารระหว่างกันและเดินหน้าแก้ไขเพื่อประชาชนโดยเร็วที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ได้เสนอข้อแนะนำเชิงนโยบาย 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่ผู้บริหารทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่นอาจจะดำเนินการแล้วแต่ยังทำไม่เพียงเพียงพอ 2.กลุ่มที่สื่อสารมาแล้วแต่ยังไม่ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง และ 3.กลุ่มที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ ส่วนเรื่องนโยบาย Low emissions zone ในกทม.หลายพื้นที่ยังไม่ครอบคลุม อยากให้ผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ครอบคลุมมากขึ้น และอำนาจที่ยังไม่มากพอที่รัฐบาลส่วนกลางยังไม่มอบให้ท้องถิ่น ดังที่กรุงเทพมหานครระบุว่ายังไม่มีอำนาจตรวจจับ ปรับรถควันดำ ซึ่งต้องอาศัยพ.ร.บ.ขนส่งทางบก ที่ยังรอการสอดประสานจากรัฐบาลส่วนกลาง
ขณะที่น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สก.เขตบางซื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ตามที่ผู้ว่าฯกทม.อ้างว่าไม่มีอำนาจในการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ตนกลับพบว่ามี 3 เรื่องที่ผู้ว่าฯกทม.มีอำนาจเต็มแต่กลับใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ คือ 1.มาตรการเขตลดฝุ่น ห้ามรถบรรทุกเกิน6ล้อที่ไม่ได้ลงทะเบียนกรีนลิสต์เข้ามาวิ่งในโซนกทม.ชั้นใน 2 วัน ผู้ว่าฯกทม.มีอำนาจตามมาตรา29พ.ร.บป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่เหตุใดถึงประกาศแค่โซนกทม.ชั้นใน ไม่ประกาศทั่วกทม.50 เขต และขยายเวลาจาก 2 วัน เป็น 1 สัปดาห์2.ไม่มีการประกาศมาตรการเวิร์คฟรอมโฮม ทั้งที่ กทม.ประกาศค่าฝุ่นเกินมาตรฐานระดับสีส้มตลอดสัปดาห์ ซึ่งเรื่องนี้ ผู้ว่าฯกทม.มีอำนาจเต็ม ดำเนินการได้เลย และ 3.กรณีที่ผู้ว่าฯกทม.เสนอไปยังรัฐบาลให้ลดเกณฑ์ตรวจค่าทึบแสงควันดำรถยนต์จาก 30% เหลือ 10% โดยอ้างว่าไม่มีอำนาจ ก็ไม่ทราบว่าได้ดำเนินการให้ลดเหลือ10% แล้วหรือไม่ เนื่องจากยังมีควันดำปล่อยออกมาจากรถอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี