ผู้ว่าฯกาญจน์สั่งคุมเข้มช่องทางธรรมชาติ "อำเภอทองผาภูมิ" โชว์ผลงานวันเดียวไล่จับแรงงานเถื่อนลอบเข้าไทยได้ 3 คดี
วันนี้ (7 ก.พ.68) นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า จากกรณีรัฐบาลโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านให้เฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างเข้มข้นนั้น ซึ่งอำเภอทองผาภูมิเป็น 1 ใน 5 อำเภอ ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา มีช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติระหว่าง อ.ทองผาภูมิ กับประเทศเมียนมา 17 ช่องทาง
ที่ผ่านมานายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีนโยบายพร้อมสั่งกำชับให้อำเภอที่มีชายแดนติดกับเพื่อนบ้านให้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเข้มข้นและเข้มแข็ง โดยให้ อ.ทองผาภูมิ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่ 135 เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน และ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.อ.ทองผาภูมิ
ผลการปฏิบัติที่ผ่านเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งคดียาเสพติด และจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหลายคดี แรงงานต่างด้าวหลายราย ผู้นำพาหลายคน กลางกลางมีทั้งทั้งรถยนต์ เก๋ง ระยนต์กระบะ รวมถึงรถพ่วง 22 ล้อที่ขนแรงงานต่างด้าวมาเต็มคันรถมากถึง 169 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2568 ด้วย ซึ่งแต่ละคดีถือว่าผู้นำพาที่เป็นคนไทยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใด
นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวอีกว่า การเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้บูรณาการร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการลาดตระเวนพร้อมออกหาข่าวตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางครั้งต้องไล่ติดตามจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวในวันเดียวกันพร้อมๆ กันหลายคดี
เช่นเมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมวันเดียวได้ 3 คดี คดีแรกเวลา 03.00 น.จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายชาวเมียน จำนวน 11 คน พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ ทะเบียน ปทุมธานี ขณะเข้าจับกุมคนขับได้จอดรถทิ้งแล้วอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ เหตุเกิดบริเวณหมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ
คดีที่สอง เวลาประมาณ 08.30 น.จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 20 คน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียนราชบุรี คนขับขับหลบหนีเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง แล้วทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้ จึงยึดรถยนต์เอาไว้เป็นของกลางพร้อมคุมตัว 20 ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎกมาย
คดีที่สาม เวลา 14.20 น.ตนได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพบกลุ่มบุคคลนั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน นครปฐม ลักษณะคล้ายกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวขับไปตามถนนในพื้นที่ช่องแคบบ้านภูเตย หมู่ 5 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ
หลังจากได้รับแจ้งจึงมอบหมายให้นายกฤษฎา มูลสวัสดิ์ ปลัดอาวุโส นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับนายนิวัฒน์ สอนจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันออกติดตามไปตามเส้นทางดังกล่าว จนกระทั่งพบเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฎว่าเมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ ได้พยายามขับหลบหนี แต่เมื่อรู้ตัวว่าไม่รอดจึงจอดรถแล้วอาศัยความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่พยายามติดตามแต่ไม่ทัน
เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถเอาไว้พร้อมกับคุมตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมาเอาไว้ได้ทั้งหมดจำนวน 12 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 7 คน ซึ่ง 4 ใน 12 คน เป็นเด็ก ทั้งหมดไม่มีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่อีกทั้งไม่สามารถสื่อสารภาษไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำผ่านล่ามแปล ที่หอประชุมบ้านภูเตย
กลุ่มผู้ต้องหาให้การว่าพวกตนได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยเดินเท้าเข้ามาตามแนวชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จากนั้นมีทั้งการเดินเท้าและสลับนั่งรถเข้ามาโดยใช้เวลา 2 วัน โดยทั้งหมดที่มาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
ก่อนหน้านี้พวกตนได้โทรศัพท์ติดต่อกับญาติที่ทำงานอยู่มหาชัยเอาไว้แล้วว่าจะพาครอบครัวทั้งหมดไปทำงานด้วย พร้อมติดต่อกับนายหน้าให้นำพาไปส่งที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าคนละ 15,000 บาท ระหว่างเดินทางไปทำงานกับญาติก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนคนขับรถยนต์ได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนีไป
นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ จึงสั่งการให้นายกฤษฎา มูลสวัสดิ์ ปลัดอาวุโส นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี