"เมืองพญาตองซู" ประเทศเมียนมา อยู่กับความมืดคืนที่ 2 หลังถูกไทยตัดไฟ แถมราคาถ่านหุงต้มถีบตัวสูงขึ้นเท่าตัว ขณะที่ "แก๊งจีนเทา" ยังเหิมใช้เครื่องปั่นไฟเปิดคาราโอเกะในสถานบันเทิงร้องเพลงเสียงดังอย่างมีความสุขทั้งคืน
จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตัดกระแสไฟฟ้าที่เชื่อมโยงแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีสำนักงานอยู่ฝั่งอำเภอพญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ที่บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด้านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ก.พ.68 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรีห์ และ พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละสังกัดเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้สกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบขนน้ำมันรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถปั่นกระแสไฟข้ามแดนไปได้โดยเด็ดขาด
ตลอดระยะเวลาหลังจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรีตัดกระแสไฟแล้วเสร็จ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ร่วมกับนายสุริยะศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่ 134 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เสริมกำลังซีลชายแดนเพื่อสกัดกั้นตลอด 24 ชั่วโมง จนกระทั่งมาถึงวันนี้ (7 ก.พ.)ยังไม่พบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันสถานการณ์ตามแนวชายแดนบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ประชาชนในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตและค้าขายตามปกติ ส่วนแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิง ข้ามแดนมาทำงานที่โรงงานฝั่งไทยแบบไปเช้าเย็นกลับเช่นเดิม
แต่เมื่อตกถึงช่วงกลางคืนบรรยากาศในพื้นที่เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมาเป็นไปด้วยความเงียบเหงาเต็มไปด้วยความมืดมาตั้งแต่ค่ำคืนวันที่ 5 ก.พ.มาถึงค่ำคืนของวันที่ 6 ก.พ. ถนนย่านเศรษฐกิจในเมืองพญาตองซู รวมถึงงภายในตัวบ้านไม่มีแม้แต่แสงไฟส่องสว่าง ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องอาศัยความสว่างจากแสงเทียน แต่ครอบครัวที่พอมีฐานะได้อาศัยแสงสว่างยามค่ำคืนจากโซลาเซลล์ได้
ปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยที่นำสินค้ามาขายตามตลาดนัดที่เปิดขายในทุกวันศุกร์ ได้มีการนำประเภทแผงโซลาเซลล์มาวางขายด้วย ทำให้ชาวบ้านข้ามชายแดนมาซื้อเนื่องจากราคาสินค้าไม่แพงอีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าตามร้านค้าในเมืองพญาตองซูหลายเท่าตัว แต่อย่างไรก็ตาม พ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้าเหล่านี้มาจำหน่ายต่างก็ปฏิเสธที่จะขายให้กับลูกค้าที่เป็นชาวอำเภอพญาตองซู เนื่องจากทุกคนกลัวความผิด ตามที่รัฐบาลได้ประกาศห้ามเอาไว้ ทำให้ลูกค้าชาวอำเภอพญาตองซูที่มาต่างก็ผิดหวังไปตามๆ กัน
ในส่วนของแม่ค้าที่นำอาหารสดประเภทของสด เช่น ปลา เนื้อ เนื้อหมู และอื่นๆ ขายได้จำนวนลดลงมาก เนื่องจากชาวอำเภอพญาตองไม่ซื้อเพราะไม่มีกระแสไฟสำหรับหุงต้มประกอบอาหารและไม่สามารถนำอาหารที่ยังเหลือแช่เอาไว้ในตู้เย็นได้ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะใช้ฟืน หรือถ่านเท่านั้น แต่ราคาที่ขายตามร้านค้าในเมืองพญาตองซู สูงขึ้นเป็นเท่าตัว
ทั้งนี้ หญิงสาวชาวเมืองพญาตองซู รายหนึ่งเล่าว่า ตั้งแต่มีการตัดกระแสไฟ ทำให้ชาวอำเภอพญาตองซูใช้ชีวิตประจำวันลำบากมาก เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีเช่น ทีวี ตู้เย็น พัดลม โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ กาต้มน้ำร้อน เป็นต้น ทั้งหมดต้องถอดปลั๊กทิ้งเอาไว้เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ลูกที่ต้องไปเรียนก็ไม่มีแสงไฟให้อ่านหนังสือ จึงมีความลำบากมาก
หญิงสาวรายดังกล่าวยังเล่าอีกว่า เมื่อลูกถามว่าทำไมที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ตนก็ไม่รู้จะตอบลูกว่าอย่างไร สำหรับราคาสินค้าประเภทถ่านหุงต้ม ขณะนี้แม่ค้าได้ขยับราคาขึ้น จากที่เคยซื้อกระสอบละ 200 บาท ปัจจุบันต้องซื้อในราคากระสอบละ 300-350 บาท และมีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นสูงอีก
การใช้ชีวิตของชาวอำเภอพญาตองซู นั้นลำบาก ซึ่งแตกต่างกับชาวจีนที่ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก สถานบริการด้านบันเทิง ยังมีแสงสีอยู่ตลอด นักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการต่างก็เต้นรำร้องเพลงตามร้านคาราโอเกะส่งเสียงดังอย่างมีความสุขกันทุกคืน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายให้ตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 5 ก.พ.ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองพญาตองซู ได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพักที่เช่าอาศัยอยู่โดยไม่ออกไปเดินจับจ่ายซื้อของภายในตลาดสดที่มีอยู่ในเมืองพญาตองซู อาจจะมีอยู่บ้างแต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
สาเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากการที่มีผู้ไม่พอใจ ที่ชาวจีนกลุ่มนี้เป็นต้นเหตุทำให้ทางการไทยตัดกระแสไฟฟ้าเป็นเหตุทำให้ชาวเมืองพญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ได้รับความเดือดร้อน และทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกไม่พอใจ และมีการเตือนกันเกิดขึ้น ทำให้ชาวจีนอาศัยอยู่แต่ภายในห้องพัก ดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี