ปกครองอำเภอศรีสวัสดิ์ จับผู้ต้องหาลักลอบเผาเป็นรายที่ 4 ตามยุทธการ "90 วันคนดีไม่เผา คนเผาโดนจับ"
วันนี้ 7 ก.พ.68 นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจากนายไสว แดนนาเฟือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านปลายดินสอ ตำบลแม่กระบุง ว่ามีเหตุผู้กระทำผิดลักลอบเผาโดยจากการตรวจสอบพบว่าเวลาประมาณ 08.30 น.คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ได้รับแจ้งจากชุดเฝ้าระวังไฟป่าปลายดินสอ ชุดที่ 1 และ 2 พบเห็นกลุ่มควันไฟ เกิดขึ้นบริเวณที่ทำกินของราษฎร บ้านปลายดินสอหมู่ที่ 5 ตำบลแม่กระบุง จึงได้ประสานสนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังไฟ เร่งเข้าควบคุมไฟกลุ่มดังกล่าวและอุทยานแห่งชาติเอราวัณได้ประสานผู้ใหญ่บ้าน คณะผู้นำชุมชน ร่วมสนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่และได้เข้าควบคุมไฟในบริเวณดังกล่าวได้ โดยพบนาย อ.(นามสมมุติ) อายุ 37 ปี จึงได้สอบสวนเบื้องต้น ปรากฎรายละเอียดว่า
นาย อ. (นามสมุติ) ได้เข้าพื้นที่มาเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22.00 น.เนื่องจากตนไปทำงานที่ต่างจังหวัดประมาณ 5-6 เดือน ถึงได้กลับมาเยี่ยมบ้านและดูแลแปลงเกษตรมันสำปะหลัง ช่วงเช้าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ตนตื่นขึ้นมาพบเห็นเศษขยะและเศษวัชพืชที่อยู่รอบๆ บ้านพักอาศัย จึงได้ดำเนินการเก็บเศษขยะและเศษวัชพืชมารวมกันและจุดเผาเศษขยะและเศษวัชพืชกองดังกล่าว แต่ด้วยช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีลมกระโชกแรงทำให้ตนไม่สามารถควบคุมไฟที่กำลังลุกไหม้ได้ จึงลุกลามเป็นวงกว้าง
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯดำเนินการจับค่าพิกัดภูมิศาสตร์ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแปลงที่ดินราษฎรปรากฏตามบัญชีรายชื่อราษฎรเข้าร่วมทำการสำรวจการครอบครองที่ดิน ในเขตอุทยานแห่งชาติ (อส.3-1) ท้องที่หมู่บ้านปลายดินสอ หมู่ที่ 5 นาย อ.(นามสมมุติ) อ้างว่า ตนขอเช่าพื้นที่เพื่อปลูกมันสำปะหลัง และทำกินในพื้นที่ดังกล่าว เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เศษ
จากข้อมูลคำให้การและตรวจสอบพื้นที่แล้ว เป็นเหตุอันทำให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าการจุดไฟเผาป่าที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ คณะเจ้าหน้าที่จึงแจ้งต่อนาย อ.(นามสมมุติ) ว่าจะต้องถูกนำตัวไปเขียนบันทึกประกอบสำนวนคดี การตรวจยึด จับกุม คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกเผาไหม้ พบความเสียหาย 0-2-93 ไร่ ขณะนี้ได้ควบคุมตัวนาย อ. (นามสมมุติ) ไปบันทึกจับกุมที่ สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกรณีพบจุดความร้อนเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าถ้ำองค์จุ หมู่ 1 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) หัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี และนายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสนธิกำลังไปตรวจสอบเพื่อสกัดเปลวเพลิงโดยในวันดังกล่าวไม่สามารถสกัดเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ได้เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางดึก อีกทั้งจุดเกิดเหตุอยู่บนภูเขาที่สูงชันเพื่อความปลอดของเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องถอนกำลัง
แต่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชายต้องสงสัยคือนายรันดร์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ชาว ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวเอาไว้ ซึ่งผู้ต้องสงสัยอยู่ในชุดนุ่งขาวห่มขาว ผมยาว โดยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเผาแต่อย่างใด มาที่ถ้ำองค์จุก็เพื่องต้องการปฏิบัติธรรมเท่านั้น
ต่อมาเช้าวันที่ 6 ก.พ.68 นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้มอบหมายให้นายคุณากร บุญเกื้อสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ร่วมกับปลัดอำเภอศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านแม่แฉลบ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง จากการตรวจสอบพบไฟลุกลามและขยายเข้าพื้นที่เป็นวงกว้าง ทำให้เกิดจุด Hotspot ทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย ของวันที่ 6 ก.พ.68 จำนวน11 จุด
เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 10 นาย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเขื่อนศรีนครินทร์ 10 นาย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ 10 นาย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 10 นาย และเจ้าหน้าที่ (เสือไฟ) จ.ชุมพร 10 นาย รวม 50 นาย ได้แต่ร่วมกันจัดทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง เพราะไม่สามารถเข้าไปดับไฟโดยตรงได้ทั่วทั้งพื้นที่ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงและมีหน้าผาที่สูงชัน จนกระทั่งเวลา18.00น.ว่าที่ร้อยเอก วรเดช ตะรุสะดำรงเดช ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ ได้รายงานให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและดับไฟกลุ่มไฟดังกล่าวได้ทั้งหมดแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี