หนาวอีกระลอก

เย็นลด2-5องศา

ทั่วไทยจมฝุ่นพิษ

กทม.ยังอ่วมหนัก

อุตุฯ เตือน “หนาว” อีกระลอกถึง 10 กุมภาพันธ์ อุณหภูมิลด2-5 องศา ขณะที่ฝุ่น PM2.5 ทั่วไทย 43 จว.-กทม. ยังหนัก ด้าน ปภ.ช.จี้ตำรวจเข้ม จับจริงรถควันดำกม.ปรับสูงสุด 5 หมื่น

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ ข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในคืนนี้ (วันที่ 7 ก.พ. 68) ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคอื่นๆ ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และจะเริ่มมีอุณหภูมิลดลงในวันถัดไป สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

เตือนหนาวอีกระลอก ถึง10ก.พ.

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8–10 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 3–5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฟ้าคะนองบางแห่ง

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก โดยมีแนวโน้มคงที่ถึงเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน

ทั่วไทยจมฝุ่น43จว.- กทม.ยังหนัก

ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้ ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.พะเยา จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด จ.หนองคาย จ.เลย จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 22.1 – 61.0 ไมโครกรัม (มคก.) / ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 32.1 – 64.2 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19.9 – 67.4 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 23.1 – 61.6 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16.6 – 24.3 มคก./ลบ.ม.

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 27 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 20.4 – 50.4 มคก./ลบ.ม.

จี้ตร.จับรถควันดำ/ปรับหนัก5หมื่น

ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขานรับนโยบายรัฐบาลดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM 2.5 โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์ ดังนี้ 1.หากฝ่าฝืนนำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน ละอองเคมี เกินเกณฑ์มาใช้ในทาง ปรับไม่เกิน 4,000 บาท ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ 2. หากใช้รถในการขนส่งที่มีสภาพ ไม่มั่นคงแข็งแรง ไม่มีอุปกรณ์และส่วนควบ ตามที่กำหนด ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ฯ 3. หากฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ เกินกว่ามาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติฯ

นายคารมกล่าวเพิ่มว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการโรงงานที่มีลักษณะปล่อยมลพิษทางอากาศ และการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งผู้ลักลอบเผาป่า พืชไร่ และพื้นที่เพาะปลูกเพื่อทำการเกษตร เผาในที่โล่ง และกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ขับยานพาหนะ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก และรถโดยสารประจำทาง ควรตรวจสอบควันดำก่อนนำออกวิ่งบนถนน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสก่อฝุ่นพิษ โทร.1599 ตลอด 24 ชั่วโมง