ศาลไม่ให้ประกัน 2 ชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังตำรวจฝากขังครั้งแรก ชี้เป็นอาชญากรข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นฐาน หากปล่อยอาจหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อคดี
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งแรก นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 28 ปี และนายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Lee Weijie) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1-2 คดีกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะความเสียหายแก่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชี เงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียน ผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 342(1), 343 วรรคสอง, พรบว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ 2550 มาตรา 14(1) วรรคหนึ่ง, พ.ร.ก.มาตรการป้องการและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มราตรา 10, 11
โดยผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับศาลอาญา พร้อมตรวจยึดของกลางทรัพย์สินหลายรายการ รวมมูลค่า 18,910,040 บาท ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ซึ่งการฝากขัง พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 ก.พ.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และรอตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติต้องโทษผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและการกระทำความผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) และน่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรข้ามชาติซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งรัดรวบรวม พยานหลักฐานเพื่อพิจารณาดำเนินคดี ทั้งข้อมูลการเข้า-ออกประเทศไทยมีการเดินทางเข้า-ออกไปยังประเทศพม่า และโดยเฉพาะกัมพูชาบ่อยครั้ง เกรงว่าหากปล่อยตัวชั่วคราวจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพนานหลักฐานและผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงิน ได้ยื่นคัดค้านการให้ประกันตัวเช่นกันเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ศาลอาญา พิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
โดยผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด คนละ 300,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขังนี้ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องผู้ต้องหาที่ 1 โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมาก เป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวมาลงโทษ อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนี เป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี
ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องเช่นกัน โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมาก
เป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาลงโทษ อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนีเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี