กลับคืนสู่มาตุภูมิแล้ว 5 แรงงานชาวไทย ถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างเกิดสงครามกลุ่มฮามาส-อิสราเอล กินเวลากว่า 1 ปี กลับถึงไทย-สู่อ้อมกอดครอบครัวอย่างอบอุ่น
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าเวลา 06.30น.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นำสมาชิกครอบครัวของ 5 แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส นานกว่า1ปี เดินทางมารอต้อนรับการเดินทางกลับสู่มาตุภูมิอย่างอบอุ่น โดยมี นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย มาร่วมแสดงความยินดีกับ 5แรงงานไทยและครอบครัว โดยแรงงานไทยมีกำหนดกลับถึงไทยเวลา 07.35น.โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK 374 สำหรับทั้ง 5คน ถูกจับเป็นตัวประกันเป็นระยะเวลา1ปีเศษ ซึ่งทางการไทย ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ต่างเร่งเจรจา เพื่อขอให้ปล่อยตัวประกันชาวไทย ในที่สุดทำให้ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 30ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง 5คน เป็นคนไทย ที่ไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอล บริเวณฉนวนกาซา ระหว่างเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส จึงถูกจับเป็นตัวประกัน
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 5ราย ได้แก่ 1.นายวัชระ ศรีอ้วน อายุ 32ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.อุดรธานี 2.นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.บุรีรัมย์ 3.นายเสถียร สุวรรณคำ อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.หนองบัวลำภู 4.นายสุระศักดิ์ ลำเนา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.อุดรธานี 5.นายบรรณวัชร แซ่ท้าว ภูมิลำเนาเป็นชาวจ.น่าน ขณะที่ปัจจุบันยังมีแรงงานไทยอีก 1คน ที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางการไทย พยายามเจรจาขอให้ปล่อยตัวและเร่งช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ และจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้อีก 1คน ได้รับการปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ทันทีที่คนไทยทั้ง 5 คน เดินออกมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตัวประกันทั้งหมดได้สวมกอดญาติๆด้วยความดีใจ หลายคนทนไม่ไหวถึงกับร้องไห้ออกมา ขณะเดียวกัน นายมาริษ พร้อมด้วย นางซากิฟ ได้เข้าพูดคุยกับตัวประกันและญาติของตัวประกันทั้ง 5คน ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงข่าว โดยระบุว่า ภาพที่เห็นเป็นอะไรที่สุดๆแล้ว สำหรับคนๆหนึ่งที่ได้กลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัว เพราะครอบครัวเกือบทุกคนไม่ได้เจอหน้าครอบครัวมานานแล้ว มีครอบครัวพูดกับตนว่า ไม่คิดเลยว่า จะได้มีโอกาสในวันนี้
นายมาริษ กล่าวย้ำว่า ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เคยคิดว่าจะหมดหวัง วันนี้จึงถือเป็นผลงานที่ปรากฏ ซึ่งน้ำตาความปลื้มปิติของครอบครัวทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และถือเป็นกำลังใจของข้าราชการทุกหน่วยงาน ดังนั้นขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทหาร โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้เดินทางไปตนตั้งแต่วันแรกที่ได้ทราบข่าวว่าตัวประกันทั้ง 5คน จะได้รับการปล่อยตัว และขณะนี้อยู่ในมือของรัฐบาลอิสราเอลแล้ว ขณะเดียวกัน ต้องขอขอบคุณมิตรทุกประเทศที่ให้ความช่วยเหลือเรามาโดยตลอด วันนี้จึงถือเป็นผลสำเร็จ ซึ่งครอบครัวทุกคนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และขอยืนยันว่ารัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องชาวไทยทุกท่าน เพื่อให้พี่น้องคนไทยที่เดินทางไปใช้ชีวิตและประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศ ทำงานเพื่อครอบครัวและทำงานเพื่อประเทศชาติ มีชีวิตที่ดี เพราะตนไม่เคยที่จะไม่คิดถึงความอยู่ดีกินดีของทุกท่าน รวมทั้งจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้พี่น้องชาวไทยทุกคนที่อยู่ในต่างประเทศได้ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศอย่างมีความสุข สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ ซึ่งนี่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนและข้าราชการทุกหน่วยงานยังคงทำงานกันต่อไป แม้จะมีความยากลำบากหรืออุปสรรคแต่ก็ไม่เคยย่อท้อและยังคงผลักดันต่อไป ก่อนกล่าวว่าทุกคนมีสุขภาพที่ดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือสุขภาพจิต ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านกลับสู่สภาพความเป็นอยู่ที่ปกติโดยเร็วที่สุด
ส่วนเรื่องของสิทธิ์ทั้งหลายที่น้องคนไทยทั้ง 5คนจะได้รับนั้น ปลัดกระทรวงแรงงานแจ้งว่า จะดำเนินการตามสิทธิที่จำเป็นต้องได้ ในส่วนของประเทศอิสราเอล เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูต ที่จะต้องคุยกับรัฐบาลอิสราเอล สำหรับตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่อีก 1 คน ในอิสราเอล ย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้นิ่งใจและยังคงมีความหวัง โดยจะทำต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็จะนำร่างของคนไทยอีก 2คน ที่เสียชีวิตกลับมาสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด
ด้านปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวขอบคุณทุกคน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ภาคภูมิใจเป็นที่สุด ตนอยากจะเรียนว่า ในส่วนที่เป็นสิทธิประโยชน์ เราจะดูแลอย่างเต็มที่สิทธิประโยชน์ใดๆ ที่พี่น้องแรงงานจะได้รับทั้ง 5คน เราจะติดตาม นอกเหนือจากนั้นตนได้เรียนหารือกับนายมาริษ ก็ได้ให้ข้อสังเกตมากมายเรื่องของการพัฒนาคนไทยทั้ง 5คน ให้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้กับพี่น้องคนไทย และคนที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล คนไทยทุกคนที่ไปทำงานต่างประเทศ ท่านคือแม่ทัพแรงงาน ได้ส่งเงินเข้าประเทศ 2-3แสนล้านบาท ถือเป็นการขับเคลื่อนประเทศชาติ ขอขอบคุณและต้อนรับสู่อ้อมกอด
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายมาริษ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เดินไปส่งถึงที่รถ เพื่อส่งคนไทยทั้ง 5คนและครอบครัว เดินทางกลับภูมิลำเนาของแต่ละคนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี