สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่ "ตลาดน้ำดำเนินสะดวก" รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการ เพื่อแก้ปัญหาและคุ้มครองนักท่องเที่ยวให้ได้รับความเป็นธรรม หลังได้รับร้องเรียนมีผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าและค่าบริการเรือโดยสารนำเที่ยวแพงเกินจริง
วันนี้ (11 ก.พ.68) นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการและการแก้ไขปัญหาแหล่งท่องเที่ยวในตลาดน้ำดำเนินสะดวกว่า ทางจังหวัดร่วมกับนางฐิรัตทียา สุภาชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี นายนิรันดร์ ชุมพลอนันต์ พาณิชย์จังหวัดราชบุรี นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นายสุวิทย์ชาติ นวมเพชร นายอำเภอดำเนินสะดวก นางปาลิกา อภิโชครุ่งเรือง นายกเทศมนตรีตำบลดำเนินสะดวก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาสินค้า
ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวในระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ได้รับเรื่องเรียนกรณีนักท่องเที่ยวถูกเรียกเก็บค่าสินค้าหรือบริการแพงเกินสมควรบ่อยครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองนักท่องเที่ยว ให้ได้รับความเป็นธรรม และเป็นการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของนักท่องเที่ยว จากการถูกเรียกเก็บค่าสินค้าและค่าบริการสูงเกินจริง คณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จังหวัดราชบุรี จึงลงพื้นที่เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการ และการแก้ไขปัญหาแหล่งท่องเที่ยวในตลาดน้ำดำเนินสะดวก
นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวอีกว่า ด้วยราคาสินค้าและบริการ พร้อมทั้งเจ้าของพื้นที่ มีนายอำเภอดำเนินสะดวก นายกเทศมนตรีดำเนินสะดวก ได้มาร่วมกันโดยมีวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องผู้ประกอบการในตลาดน้ำดำเนินสะดวก ทำให้ถูกกฎหมาย และประเด็นสำคัญจะมีอยู่มี 2 เรื่อง คือ การติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และเรื่องการจำหน่ายสินค้าที่เกินราคากว่าสมควร ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นคือผู้จำหน่ายสินค้าไม่มีการติดป้ายแสดงไม่ชัดเจน จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และอีกเรื่องการจำหน่ายสินค้าที่ราคาแพงเกินความสมควร มีโทษค่อนข้างสูง คือคุก 7 ปี และปรับ 140,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ได้รับร้องเรียนมาโดยตลอด
จึงได้มาประชาสัมพันธ์และแจ้งให้กับผู้ประกอบการถือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ก็ยังพบปัญหาการร้องเรียนอยู่ และวันนี้คณะอนุกรรมการส่วนจังหวัดด้วยราคาสินค้าและบริการ จึงพร้อมใจกันลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้มาตรวจหรือจับปรับใคร มาเน้นในเรื่องของการรณรงค์ให้พี่น้องพ่อค้าแม่ค้า ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นแหล่งทำมาหากินของพี่น้องชาวอำเภอดำเนินสะดวก และเป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงอยากให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องเพื่อรักษาชื่อเสียงและเชิดชู ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกเอาไว้ และฝากประชาชนหากพบเห็นการกระทำผิด การจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามในปี 2567 ที่ผ่านมา จังหวัดราชบุรีได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร และค่าบริการเรือโดยสารนำเที่ยวแพงเกินสมควรจากนักท่องเที่ยว ทั้งสิ้น 7 ราย และได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ถูกร้องเรียนทั้งหมดแล้ว โดยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ศาลจังหวัดราชบุรี ได้มีคำพิพากษา ผู้ประกอบการจำนวน 1 ราย (รายแรก) กรณีประกอบธุรกิจหรือดำเนินการใด ๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาสูงเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้าหรือบริการใด ๆ มีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ .2542 มาตรา 29 วรรค 1 บทกำหนดโทษมาตรา 41 จำคุก 1 ปี ปรับ 40,000 บาท โดยโทษโดยจำเลยให้การรับสารภาพโทษจำคุกลดเหลือ 6 เดือน (รอลงอาญา 2 ปี) ปรับ 20,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี