ผู้ปกครอง ครู ตำรวจ ประชุมเครียด หลังพ่อแม่เด็กนักเรียนไม่ยอมหลังเห็นคลิปลูกสาวโดนเพื่อนรุมทำร้าย 10 ต่อ 1 ในห้องน้ำ สุดท้ายจบลงด้วยดี "พ่อแม่เด็กที่ทำร้ายและกลุ่มเด็กที่รุมทำร้าย" ยอมขอโทษผู้เสียหายเรียงตัว โดยให้ทุกอย่างเป็นเหมือนฝันและกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

ความคืบกรณีมีคลิปภาพเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ รุมทำร้ายนักเรียนห้องเดียวกันแบบ 10 รุม 1 หลุดออกไปทางโลกโซเชียล จนชาวเน็ตออกมาวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากมีภาพนักเรียนสูบบุรี่ภายในห้องน้ำและอยากให้มีการแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน

ล่าสุดวันนี้ (11 ก.พ.68) พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย อำเภอละหานทราย ได้เดินทางมาเป็นคนกลางเพื่อหาข้อยุติเนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังเป็นเด็กหญิง ไม่อยากจะให้กระทบกระเทือนจิตใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยมีผู้ปกครองเด็กทั้งสองฝ่ายกว่า 10 คนและเด็กนักเรียนทั้งหมด คณะครู และตำรวจ มาร่วมฟังและหารือโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง โดยได้ข้อสรุปว่าให้เด็กทั้ง 10 คนและพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กไปขอโทษฝ่ายผู้เสียหายในที่โล่งแจ้งบนเวทีห้องประชุม และให้เด็กทั้งสองฝ่ายกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายพรชัย อายุ 46 ปี และนางหทัยรัต อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของเด็กหญิงอายุ 13 ปีนักเรียนชั้น ม.1 ที่ถูกทำร้ายเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบเรื่อง จนกระทั่งญาติกันส่งคลิปมาให้ดู ยอมรับว่าทำใจลำบากสงสารลูก เพราะอายุเพียง 13 ปี แต่มาถูกรุมทำร้ายและจะดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด แต่มาถึงตอนนี้เห็นผู้ปกครองเด็กที่ก่อเหตุ เห็นหน้าเด็กมาขอโทษถือเป็นเรื่องดีเพราะลูกสาวตนจะได้ไม่ต้องหวาดระแวงอีกต่อไป แต่ก็อยากจะฝากถึงโรงเรียนให้ช่วยสอดส่องดูแลเด็กในโรงเรียน ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

นายสมนึก หนึ่งในผู้ปกครองเด็กที่รุมทำร้ายเด็กนักเรียนหญิง บอกว่าไม่รู้ว่าลูกสาวทำแบบนั้นได้อย่างไร จากการสอบถามลูกสาวทราบว่ามีการพูดจาดูหมิ่นกัน ลักษณะดูถูก จึงสังสอนลูกไปว่ามันผิดกฎหมาย ตอนนี้ลูกสาวสำนึกผิดแล้ว

ทางด้านรักษาการรอง ผอ.ฝ่ายกิจการนักเรียน กล่าวว่า โรงเรียนไม่ได้ปล่อยปะละเลยแต่กรณีนี้เด็กไปแอบทำกันเองในห้องน้ำ หลังทราบข่าวได้ประสานติดต่อหลายหน่วยงานมาร่วมหาทางออกให้กับเด็ก กรณีนี้อาจจะยกมาเป็นตัวอย่างในการเรียนการสอนต่อไป

สำหรับทางด้านคดี พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย ได้ออกมาระบุว่า ทางด้านคดีจะต้องดำเนินการต่อในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ดำเนินการตาม พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน หลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยเรื่องการเยียวยาเพื่อตามกระบวนการต่อไป