nn แน่นอนสำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมของ สปภ.ไม่ว่าจะก่อสร้างที่ไหน หรือจะมีรูปแบบอย่างไร หากพูดตามเนื้อผ้าแล้วก็สามารถบอกได้ชัดว่า เกิดประโยชน์กับ กทม. แทบทั้งสิ้น เนื่องจากทุกปีที่ผ่านมารวมทั้งปีนี้หรือปีที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ กทม.จะต้องสูญเสียเงินอย่างน้อยปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านทุกปี ซึ่งตรงนี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดเช่นกันว่า การไม่มีศูนย์ฝึกฯโดยที่ กทม.ไปใช้บริการยังจุดอื่นๆ มักมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอๆ ซึ่งได้ทำความหนักอกหนักใจให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเสมอมาเหมือนกัน แม้จะไม่มีหลักฐานที่เล่าลือใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายก็ตาม ดังนั้น เพื่อตัดปัญหาหรือป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามที่มีเสียงวิพากษืวิจารณ์ขึ้น การเร่งรีบก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรม สปภ. ก็ต้องเร่งกระทำให้เป็นรูปธรรม 

nn แต่อย่างที่ “ไผ่ฎำ” นำเสนอมาหลายวันว่าโครงการดังกล่าวแม้ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้ความสำคัญเห็นด้วยกับการก่อสร้างบนที่ดินของ กทม. ย่านวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐมทว่าสุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ จนต้องยกเลิกโครงการใหญ่มูลค่า 3,000 ล้าน 3 ระยะ ได้ผู้รับเหมาโครงการแล้วออกไป และส่งผลให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเกิดขึ้นวันนี้เรื่องต่างๆ ยังอยู่ในชั้นศาล รวมทั้ง ป.ป.ช. ดังนั้น เมื่อประเด็นข้อขัดแย้งอยู่ในชั้นศาล จึงเป็นปัญหาต่อมาว่า โครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกฯบนที่ดินแห่งใหม่ย่านหนองจอกงบประมาณ 1,338 ล้านบาท ตามนโยบายผู้บริหารชุดปัจจุบัน จะดำเนินการก่อสร้างได้อย่างไร หรือก่อสร้างๆ ได้ ส่วนข้อกฎหมายก็ว่ากันไป 

nn อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรม สปภ. ในสายตาของข้าราชการ สปภ. ต่างล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันให้ผู้บริหารเร่งรีบดำเนินการ เพราะยิ่งเนินช้าออกไปความเสียหายเสียประโยชน์ทั้งหมดเกิดกับ สปภ. ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกฯสปภ.บนที่ดินในจังหวัดนครปฐมบอกว่า เมื่อบริษัทถูกยกเลิกโครงการและเกิดการเสียหายขึ้น กทม.ก็ต้องรับผิดชอบ 

nn ทิ้งท้ายไว้ด้วยเรื่องฟุตปาธมีจดหมายร้องทุกข์บอกว่า วันนี้ฟุตปาธหลายแห่งกำลังมีการก่อสร้างรูปแบบใหม่ ซึ่งทำให้ประชาชนได้ร้บความสะดวกสบายขึ้นมาก แต่ยังอีกหลายแห่ง เช่น ถนนรามคำแห่งเดิมบริเวณหน้าการประปานครหลวง มุ่งหน้าออกถนนสุวินทวงศ์ ตรงนี้ทั้งสองฝั่งคร่ำครึมาก ทำไมปล่อยกันไว้ไม่ดูแล ที่สำคัญถ้ายังมีการปลูกต้นพญาสัตบรรณเอาไว้ ถึงจะปรับปรุงฟุตปาธอย่างไรเท่าไหร่โอกาสที่จะรื้อๆ ขุดๆ ซ่อมๆ ก็คงต้องมีต่อเนื่อง เพราะรากของต้นไม้ประเภทนี้โตเร็วทำลายผิวฟุตปาธ ถ้ายังคงปลูกไว้ ปัญหาดังกล่าวจะเกิดตลอดไป nn

ไผ่ฎำ