ตำรวจท่องเที่ยวบุกจับต่างชาติจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่หนีภาษี ห่างกับโรงเรียนเพียง 50 เมตรพบของกลางเพียบ
วันที่ 12 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ศักย์สิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.สืบทราบว่า ที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี มีปัญหาคนต่างด้าวประกอบธุรกิจผิดกฎหมายแย่งอาชีพ คนไทย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 5 นำกำลัง บูรณาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเกาะพะงัน และ ตำรวจ ตม. เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบ ที่โรงแรม The Wanderlust Hostel ม.1 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี สามารถควบคุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายอิวาน สัญชาติเซอร์เบียน อายุ 44 ปี เจ้าของโรงแรม เปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า 2.นายภากร สัญชาติไทย ผจก.โรงแรม อายุ 30 ปี และ 3.นางสาวแอชลีย์ สัญชาติอเมริกัน อายุ 23 ปี เป็นพนักงานแคสเชีย
พร้อมด้วยของกลาง 1.บุหรี่ยี่ห้อ Basia Red จำนวน 6 ซอง 2.บุหรี่ ยี่ห้อ Basia White จำนวน 6 ซอง 3.บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ Infy จำนวน 5 ชิ้น 4.บุหรี่ยี่ห้อ Manchester Sapphire Blue จำนวน 60 ซอง 5.บุหรี่ ยี่ห้อ Manchester Reserve จำนวน 60 ซอง 6.บุหรี่ยี่ห้อ Basia White จำนวน 370 ซอง และ 7.บุหรี่ยี่ห้อ Basia Red จำนวน 6 ซอง
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีโรงแรมมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ที่ไม่ผ่านพิธีศุลกากร โดยตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาประมาณ 50 เมตร จึงได้ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงโรงแรมพบเห็นชาวต่างชาติเข้า-ออกจำนวนมาก จึงได้เข้าตรวจสอบโรงแรมเมื่อเจ้าหน้าที่เดินตรวจไปยังบริเวณบาร์ของโรงแรมดังกล่าว พบป้ายแสดงสินค้าประเภท บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า พร้อมราคา อีกทั้งยังพบบุหรี่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ไม่มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ ได้มีนายภากร สัญชาติไทย มาแสดงตัวเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ และนายอิวาน สัญชาติเซอร์เบียน ได้มาแสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ให้บุคคลทั้งสองรายเป็นผู้นำตรวจสอบพบของกลางหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด
หลังจับกุม นายภากร และนายอิวาน ให้การยอมรับว่า บุหรี่ดังกล่าวได้สั่งมาจากเพื่อนชาวบังแกเรีย สั่งซื้อมาในราคา 20,000 บาท เพื่อไว้ขายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยให้นายภากรเป็นผู้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยขายบุหรี่ไฟฟ้าในราคา 600 บาท และบุหรี่ขายในราคาซองละ 100 บาท ซึ่งรายได้จากการขายทั้งหมดจะแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างนายภากรและนายอิวาน
ด้าน นางสาวแอชลีย์ ให้การยอมรับว่า ตนไม่มีใบอนุญาตทำงานจริง เนื่องจากตนได้ถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยมีนายจ้างชื่อว่า นายอิวาน สัญชาติเซอร์เบียน ได้ว่าจ้างตนให้มาทำงานแผนกต้อนรับของโรงแรม The Wonderlust เพื่อแลกกับที่พักอาศัยและอาหารฟรี และได้ยอมรับว่าตนทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับให้กับ Wonderlust จริง
จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรและโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร, ร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้า (ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต) ที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน, ร่วมกันขายสินค้า (บุหรี่ไฟฟ้า) โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” จึงนำตัวทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ทาง พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ใกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นนี้อย่างจริงจัง
- 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี