เปิดบ่อปลาบังหน้า!! รวบพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมอาวุธปืนขึ้นลำกล้องพร้อมยิงหลายกระบอก

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้การอำนวยการของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบน  พร้อมด้วย เรือตรี นิติพัฒน์ ซื่อดี ปลัดอำเภอ,ว่าที่ร้อยตรี พรชัย วนศาสตร์ ปลัดอำเภอ,นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ ปลัดอำเภอ และ นายกิตติวุฒิ ฉัตรวคุณ ปลัดอำเภอ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน บุกเข้าตรวจแค้มป์คนงานในพื้นที่อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้ใช้แรงงาน

จากการตรวจค้น พบชายต้องสงสัย 2 คน จึงได้เข้าควบคุมตัวไว้ โดยจากการตรวจค้นภายในตัวของชายที่ใส่ยืดสีแดงทราบชื่อต่อมาคือ นายพงษ์นรินทร์ อายุ 36 ปี เป็นชาวตำบลบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบยาไอซ์อยู่ในตัวจำนวนหนึ่ง  และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์ที่นายพงษ์นรินทร์ ขับมาจอดบริเวณดังกล่าว ยังพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก 4,874 เม็ด กับยาไอซ์รวมทั้งหมด 316 กรัม พร้อมเครื่องชั่งดิจิตอล และอาวุธปืนขนาด 11 มม.ที่ขึ้นลำกล้องไว้พร้อมยิงอีก 1 กระบอก  ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือนายประวิช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เป็นคนในพื้นที่อ้อมน้อย และเป็นเจ้าของที่พักอาศัย พบยาไอซ์อยู่ในตัว 7 กรัม และยังพบตู้เซฟอีก 1 ใบ มีเงินสด 122,000 บาท อาวุธปืน 2 กระบอก และพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่ง โดยแจ้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะเอาไว้จ่ายค่าบ้าน

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่ได้มีนโยบายมอบหมายให้ทุกอำเภอออกกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่ทั้งการก่อเหตุอาชญากรรม การใช้แรงงานผิดกฎหมาย และ ยาเสพติดนั้น ในการนี้ทางชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ได้ออกตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายตามที่ได้รับการร้องเรียน จนสามารถจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ได้ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่รายหนึ่งเพราได้ทั้งยาบ้าและยาไอซ์จำนวนมาก โดยในส่วนของผู้ค้ายาเสพติด ก็จะต้องถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ผู้เสพยาเสพติดก็จะต้องถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป     พร้อมกันนี้ผู้ว่าฯ ยังได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบนที่ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นจากการสอบถามนายพงษ์นรินทร์ ทีแรกไม่ยอมรับว่ามียาบ้าไว้เพื่อจำหน่าย บอกแต่ว่ายาบ้าทั้งหมดที่พบเกือบ 5,000 เม็ด และไอซ์อีกกว่า 300 กรัมนั้น มีไว้เพื่อเสพเองเท่านั้น ไม่ได้ขายแต่อย่างใด ซื้อมาเพื่อเสพแก้เครียดเพราะขาดทุนจากการทำบ่อปลา แต่พอถามไปถามมาก็ยอมรับว่า รับยาบ้ามาจากผู้ค้าที่เอามาส่งแถวพระราม 2 แล้วเอามาขายต่อให้กับผู้เสพราคาเม็ดละ 50 บาท ส่วนไอซ์กรัมละ 300 บาท ดังนั้นหากของกลางที่พบถูกขายออกไปก็จะมีมูลค่าโดยรวมราวๆ 338,000 บาท พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาครดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป