พ่อเมืองร้อยเอ็ด รุดให้การช่วยเหลือหาน้ำดิบเติมระบบประปาหมู่บ้านที่แห้งขอดในพื้นที่ ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี เพื่อบรรเทาภัยแล้ง  

วันนี้(13 ก.พ.68) เวลา 10.30 น.นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางลงพื้นที่บ้านฝั่งแดง ตำบลอุ่มเม้า อำเภอ ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ขาดแคลนน้ำดิบที่ใช้ผลิตระบบประปาหมู่บ้าน จากหนองน้ำประจำหมู่บ้านได้แห่งขอดลง เนื่องจากในปีฤดูฝนที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนน้อย ในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งทำให้น้ำแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วประกอบกับพื้นที่บ้านฝั่งแดงไม่สามารถทำระบบประปาบาดาลได้เนื่องจากน้ำใต้ดินเป็นน้ำเค็ม จึงต้องใช้น้ำฝนที่เก็บไว้ในสระน้ำหรือหนองน้ำประจำหมู่บ้านในการผลิตระบบประปาหมู่บ้านมาโดยตลอด 

สำหรับบ้านฝั่งแดงแห่งนี้ มีเทศบาลตำบลอุ่มเม้า เป็นผู้ดูแล มีประชาชนผู้ใช้น้ำประปา ประมาณ 200 ครัวเรือน ประชากร 600 คน นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการแก้ไข โดยได้ให้การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ขนาด 14 นิ้วดำเนินการสูบน้ำเพื่อเติมน้ำดิบจากหนองบึงเกลือ ไปยังหนองตาโว ระยะทางประมาณ 600 เมตร เพื่อเติมเป็นน้ำดิบใช้ในการผลิตประปาหมู่บ้านให้ชาวบ้านมีน้ำประปาใช้ต่อไป

เบื้องต้นได้สั่งให้เติมน้ำดิบจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คิว ให้ประชาชนได้ใช้น้ำไปพลางก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และให้นายกเทศมนตรีตำบลอุ่มเม้า พิจารณาปริมาณน้ำตามความเหมาะสมคาดว่าสามารถผลิตน้ำประปาได้ใช้จนพ้นช่วงฤดูแล้งนี้

นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ทาง ปภ.จังหวัด ร่วมกับ นายอำเภอธวัชบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดร้อยเอ็ด และเทศบาลตำบลอุ่มเม้า ได้ลงพื้นที่สำรวจว่าในพื้นที่ใกล้ๆได้มีแหล่งน้ำว่าสามารถที่จะเติมน้ำให้กับแหล่งน้ำดิบของระบบประปาหมู่บ้านได้ก็คือที่บ่อเกลือ ระยะทางประมาณ 600 เมตร น้ำที่บ่อเกลือมีประมาณ 80,000 คิว ส่วนน้ำที่ต้องการมวลน้ำดิบประมาณ 10,000 คิว จึงได้มีการประสานขอแบ่งน้ำซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะประมาณ 10,000 คิว มาเติมไว้ตรงนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนยังมีน้ำประปาใช้ได้ตามปกติ 
ซึ่งตอนนี้ทางจังหวัดร้อยเอ็ดเองก็ได้สนับสนุนงบประมาณและเครื่องจักรกลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงาน ปภ.เขต 6 เพื่อเติมน้ำดิบ จากข้อมูลของเทศบาลตำบลอุ่มเม้าทราบว่าระบบประปาของหมู่บ้านมีความต้องการมวลน้ำดิบประมาณวันละ 30 คิว ซึ่งคาดว่ามีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในการอุปโภคบริโภคและการปศุสัตว์