ชาวปทุมฯร้องปัญหาบ่อขยะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและมลพิษทางอากาศ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ด้านอุตสาหกรรมจังหวัดเผยตรวจสอบแล้ว พบประกอบกิจการทำเชื้อเพลิง RDF อยู่ระหว่างการดำเนินคดีสั่งระงับใช้เครื่องจักร หากยังฝ่าฝืนพร้อมดำเนินการลงโทษหนัก

วันที่ 13 ก.พ.2568 ชาวบ้านที่ย่านคลอง3 ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า บ่อขยะที่บริเวณคลอง 3 ส่งกลิ่นเหม็น และมีทัศนะอุจาด” (Vision Pollution) ให้กับพื้นที่โดยรอบ ทีมข่าวได้ลงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามคำร้องเรียน พบว่า ได้มีรถบรรทุกขยะได้นำขยะมาลงในบ่อขยะแห่งนี้จำนวนมาก จากการสำรวจโดยรอบพบว่า สภาพพื้นที่โดยรอบของบ่อขยะมีการปลูกข้าว และมีหมู่บ้านอยู่ ซึ่งบางหมู่บ้านยังคงใช้น้ำบาดาลในการอุปโภคบริโภคซึ่งอาจจะมีผลกระทบจากน้ำจากบ่อขยะซึมลงในดินหรือไม่

จากการสอบถามชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ่อขยะแห่งนี้เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขี้นที่เลี่ยงไม่คือปัญหาในเรื่องกลิ่นที่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ในความรู้สึกลึกๆของเธออยากให้บ่อขยะแห่งนี้ปิดลง ทีมข่าวได้สำรวจรอบบริเวณบ่อขยะแห่งนี้ พบว่ายังมีเครื่องจักรกลยังคงทำงานอยู่ และมีรถขยะเข้ามานำขยะมาทิ้งที่นี่จำนวนมาก ภาพในโรงคัดแยกขยะภายในโรงงานพบว่า ยังมีการใช้เครื่องจักรทำงานอยู่ไม่ว่าการใช้สายพานลำเลียงขยะออกจากรถขนขยะ หรือการใช้รถแม็กโคร ตักขยะจากรถบรรทุกขยะจากนอกอาคาร จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าบ่อขยะแห่งนี้ถูกร้องไปยังเจ้าหน้าที่รัฐหลายครั้ง และมีการเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีเพื่อสอบถามในประเด็น เรื่องของบ่อขยะแห่งนี้ นายอุดม สอนจิตต์ อุสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า บริษัทแห่งนี้ได้รับเรื่องร้องเรียน และได้เข้าตรวจสอบบ่อขยะแห่งนี้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบว่า มีการประกอบกิจการทำเชื้อเพลิง RDF และยังพบการใช้เครื่องจักรเกิน 50 แรงม้า   โดยยังไม่ได้ขออนุญาต อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีจึงได้มีการสั่งการตามมาตรา 37 ให้มีการระงับการใช้เครื่องจักร หรือให้ยุติการผลิต RDF มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการเรียกผู้ประกอบการรับทราบและอยู่ในระหว่าการดำเนินคดี ถ้ายังมีการละเมิดคำสั่งของอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี ก็อาจจะมีการโทษสูงขึ้น ตัวการร่วมทั้งหมดซึ่งการเปิดโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาตถือว่าผิดกฎหมายในประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดให้โรงงานที่เข้าเกณฑ์ต้องได้รับใบอนุญาตก่อนดำเนินกิจการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับปรับเพิ่มอีกวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะได้รับอนุญาต ทั้งยังมีการยื่นเรื่องให้อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีสั่งปิดโรงงาน ดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา โดยให้มีการย้ายกองขยะ และเครื่องจักรออกโดยด่วน พร้อมฟื้นฟูน้ำเสียลงพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป"นายอุดมกล่าว

ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวต่อว่า ขอให้ตำรวจและอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีดำเนินการตรวจสอบให้ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายรวมทั้งเจ้าของบ่อขยะ และขอให้ตรวจสอบการตั้งงบการกำจัดขยะของเทศบาลที่นำขยะมาทิ้งว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการนำขยะมาทิ้งเถื่อนไม่ใช่การกำจัดที่ถูกต้องส่งผลกระทบไปทั่ว อาจขัดต่อพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ขอวอนไปยังเทศบาลเมืองท่าโขลงให้พิจารณาหยุดการนำขยะของท่านมาทิ้งในพื้นที่คลองสามเพราะประชาชนเดือดร้อนกันมาก