2 คนไทยถูกแก๊งคอลฯปอยเปตหลอกไปบังคับทำงานหลอกคนไทย ถูกกักขังช๊อตด้วยไฟฟ้าทนไม่ไหวกระโดดตึกหนีตายออกมาซุกโกดังร้าง1คืน1วัน ก่อนหนีข้ามแดนเข้าไทยช่องธรรมชาติจนถูกทหารพราน กกล.บูรพา สกัดจับได้
วันที่ 14 ก.พ.2568 ขณะที่ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา (ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา) และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201นำกำลังพล ร้อย ทพ.1201 ร่วมกับ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึกฯ,พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันออกลาดตะเวณและเฝ้าตรวจเข้มป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ ริมคลองพรมโหด ซึ่งเป็นคลองกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมและจุดเสี่ยงต่อการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ซีล สต๊อป เซฟ ชายแดนของ รัฐบาล
ต่อมา จนท.ชุดปฏิบัติการร่วม ร้อย ทพ.1201 ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย2คนลักลอบข้ามคลองพรมโหด ซึ่งเป็นคลองกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ลอบข้ามเข้ามาขึ้นฝั่งไทยบริเวณป่าละเมาะบ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนท.จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้พบว่าเป็นคนไทยจำนวน 2 คน ชื่อนายสุรศักดิ์ อายุ 48 ปี อยู่ที่ ซ.พระรามที่ 2 ซอย 25 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร และนายศราวุธ อายุ 35 ปี อยู่ที่ ม.10 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดนแต่อย่างใด โดยคนไทยทั้ง 2 คน อ้างว่าหนีตายจากขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในฝั่งเขมรออกมา จนท.จึงควบคุมตัวมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการซักถามเบื้องต้น นายสุรศักดิ์ ชาว กทม. และนายศราวุธ ชาวนครราชสีมา อ้างว่า ตนทั้งสองคนได้ไปสมัครหางานทำในเฟสบุ๊ค ชื่อกลุ่มหางานปอยเปต เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2568 จากนั้นได้มีหญิงชาวไทยติดต่อกลับมาว่าให้มาทำงานเป็นแอดมินตอบลูกค้า รายได้ดี พวกตนจึงตกลงและเดินทางจากภูมิลำเนา ที่ กทม. และนครราชสีมา มารอผู้ว่าจ้างที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสตาร์พลาซ่า หน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อประมาณปลายเดือน ม.ค.68
จากนั้นผู้ว่าจ้างได้ส่งคนมารับพวกตนไปลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่รู้ว่าเป็นบริเวณไหน จากนั้นก็มีรถสามล้อมารับไปส่งยังตึกแถวหกชั้นในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นตึกปิดห้ามเข้า-ออก โดยชั้นที่1-4 เป็นที่พัก และชั้นที่ 5-6 เป็นสถานที่ทำงานและเมื่อไปถึงตนทั้งสองจึงรู้ว่าเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่มาทำงานเป็นแอดมินแต่อย่างใด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วเพราะตกไปอยู่ในมือของแก๊งคอลฯแล้ว จากนั้นพวกตนได้ถูกยึดโทรศัพท์และเอกสารประจำตัวทุกอย่าง แล้วถูกพามากักขังไว้ที่ห้องพัก เมื่อถึงเวลาทำงานแก๊งดังกล่าวก็จะพาออกมาบังคับให้โทรศัพท์หลอกลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินโดยปลอมเป็น จนท.หลายหน่วยงานตามผู้ควบคุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีนเป็นคนสั่ง หากไม่ยอมทำหรือทำยอดไม่ได้ตามที่กำหนดก็จะถูกทำร้ายร่างกายทุบตี และช๊อตด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้า
ซึ่งพวกตนได้รับความทรมานมาก จึงชักชวนกันหาทางหลบหนีในเวลากลางคืน โดยตนทั้งสองคนได้กระโดดหลบหนีออกมาทางหน้าต่างชั้นที่ 2 ลงมาข้างล่าง แล้ววิ่งหลบหนีไปแอบอยู่ในโกดังร้างแห่งหนึ่งในฝั่งปอยเปตเป็นเวลา 1 คืน 1วัน จากนั้นจึงได้เดินเท้าลัดเลาะมาตามชุมชนเล็กๆจนมาถึงริมคลองกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา จึงได้รีบหนีข้ามคลองมาขึ้นฝั่งไทย แล้วมาถูก จนท.ทหารพรานไทยจับกุมได้ ถือว่าโชคดีที่หนีรอดพ้นขุมนรกจากฝั่งปอยเปตมาได้
จนท.จึงควบคุมตัวทั้งสองคนส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี เข้า-ออกไม่ผ่านช่องทางที่กำหนด และสอบสวนขยายผลถึงผู้หลอกลวงหรือร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป
- 026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี